PRO ดันรายได้โต20% ลุยประมูลกำจัดกาก
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
สัมภาษณ์
หุ้นบริษัทโปรเฟสชันแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) จำกัด (มหาชน) (บมจ.) หรือ “PRO” ถูกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศขึ้นเครื่องหมาย SP เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558 เนื่องจากบริษัทไม่สามารถส่งงบการเงินภายในระยะเวลาที่กำหนด และฐานะการเงินไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ ตลท.กำหนด ล่าสุด ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 บริษัทมียอดขาดทุนสะสม 772.25 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในวันที่ 24 ตุลาคม 2562 บริษัทจะประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2562 เพื่อให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนลดพาร์ล้างขาดทุนสะสม และเตรียมยื่นตลท.กลับเข้ามาเทรดในปีหน้า พร้อมรุกโต !
นางสาววิไลลักษณ์ สกุลภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โปรเฟสชันแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) หรือ “PRO” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่ามั่นใจว่าผู้ถือหุ้นจะอนุมัติแผนการลดพาร์เพื่อล้างขาดทุนสะสม ตามมติที่คณะกรรมการบริษัทให้ลดทุนจดทะเบียนจาก 1,470,000,000 บาท เป็น 1,417,564,545.60 บาท และให้รวมพาร์จากเดิม 0.70 บาทเป็น 4.20 บาท ทำให้จำนวนหุ้นลดลงจากเดิม 2,025,092,208 หุ้น เป็น 337,515,368 หุ้น ด้วยการรวม 6 หุ้นเดิมเป็น 1 หุ้นใหม่ และอนุมัติให้ลดทุน จดทะเบียนจากเดิม 1,470,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 337,515,368 บาท
วิไลลักษณ์ สกุลภักดี
นางสาววิไลลักษณ์ กล่าวต่อว่าแผนธุรกิจของบริษัทจากนี้ ได้ตั้งเป้ายอดขายปี 2563 โต 20% หรือมีรายได้จากฐานของลูกค้าประจำประมาณ 360 ล้านบาท ยังไม่นับรวมรายได้ที่มาจากงานประมูลซึ่งเริ่มรุกในช่วงหลังมากขึ้น เช่นงานด้านบำบัดขยะให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานรายใหญ่ 3-4 ราย คาดน่าจะประมูลได้และจะเริ่มงานในปีหน้า ขณะที่ปีนี้ได้งานบำบัดขยะของ บมจ.ผาแดงอินดัสทรี (PDI)โดยผ่านบริษัทแม่ PDI ในรูปของการร่วมทุน มูลค่ารวมกว่า 600 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทมีนโยบายจะขยายไลน์ไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ ธุรกิจเกี่ยวกับการทำเตาเผาขยะ การรีไซเคิลจากขยะไปใช้ประโยชน์ เช่น การทำปุ๋ย อิฐบล็อก หรือผลิตเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) ป้อนเป็นวัตถุดิบให้กับโรงงานผลิตไฟฟ้า
“ไตรมาสแรกปีหน้า จะเริ่มผลิตปุ๋ยจากขยะ ซึ่งบริษัทได้ใบอนุญาตแล้วอยู่ระหว่างสร้างโรงงานและจะให้ชาวบ้านนำไปใช้ในเชิงของซีเอสอาร์ รวมทั้งป้อนส่ง อบต./อบจ.ในพื้นที่ ส่วนการผลิตเชื้อเพลิงจากขยะ ปัจจุบันได้ส่งป้อนให้กับบมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง และจะผลิต RDF อัดก้อนเป็นวัตถุดิบ ส่งให้กับกลุ่มบริษัทพลังงานเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิงในจังหวัดสระแก้ว และปราจีนบุรี”
จุดเด่นของบริษัทคือได้รับประโยชน์จากกลุ่มอุตสาหกรรมที่ไปตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เนื่องจากบริษัทมีศูนย์บำบัดกากอุตสาหกรรม ที่จังหวัดสระแก้ว พื้นที่ 918 ไร่ จึงได้เปรียบด้านระยะทาง และได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ จากศักยภาพในด้านการรองรับขยะซึ่งบริษัทเป็นอันดับ 1 ปัจจุบันรายได้ของบริษัทมาจากกลุ่มโรงงานผลิตสัดส่วนราว 60%, กลุ่มพลังงาน 20% และโรงหมึกพิมพ์/กลุ่มลูกค้าทั่วไปอีก 20%
“การกลับมาเทรดอีกครั้ง เชื่อว่าหุ้น PRO จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากเป็นหุ้นสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ ประกอบกับผลดำเนินงานที่ดีขึ้น เพราะแม้บริษัทจะติดเครื่อง SP แต่ 5 ปีที่ผ่านมามีกำไรมาโดยตลอดโตเฉลี่ย 15% จะเห็นได้ว่าช่วงที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดให้ซื้อขายชั่วคราววันที่ 1-31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ราคาหุ้น PRO จากก่อนขึ้น SP อยู่ที่ 0.20 บาทต่อหุ้น ได้ปรับเพิ่มก่อนปิดที่ 0.35 บาท รวมทั้งมีนักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาถือหุ้นเพิ่มอีก 7 ราย รวมกับเดิมคือ UOB KAY HIAN PRIVATE LIMITED. ที่ถืออยู่ 7.40% เป็น 8 ราย โดยมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างชาติปัจจุบันรวมประมาณ 8%”
ด้านนางปิยะภา จงเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอส 14 แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ( FA) ของ PRO กล่าวเสริมว่า บริษัทจะยื่นงบการเงินปี 2562 คาดเป็นช่วงเดือนมีนาคม 2563 เพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตรวจสอบงบ และคาดหุ้น PRO จะกลับมาเทรดได้ช่วงไตรมาส 2- 3 ปีหน้า
“PRO” จะรักษาความเป็นผู้นำการกำจัดกากอุตสาหกรรม ดันรายได้โตต่อเนื่อง หลังล้างขาดทุนสะสม ราคาหุ้นจะไต่ขึ้นหลังแตะสูงสุดรอบ 1 ปี 0.48 บาทต่อหุ้น คงจะเห็นผลชัดเจนปีหน้า
หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,516 วันที่ 24-26 ตุลาคม 2562
