ธนารักษ์คาดโทษคุก 20ปี กรณีปลอมเหรียญแพรแถบ

กรมธนารักษ์เตรียมเอาผิด ปลอมเหรียญแพรแถบ ขู่โทษหนักสูงสุด จำคุก 20 ปี - ปรับ 1 แสนบาท แจงยังผลิตได้อีก 2 แสนเหรียญ จากกฎหมายที่ขอไว้ 5 แสนเหรียญ -แจงเหรียญของจริงทำจากเส้นไหมถักทอ และเงินแท้   ราคา 1,600 บาทต่อเหรียญ

นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า สภาผู้แทนราษฎรได้แจ้งว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพทำการปลอมแปลงเหรียญที่ระลึกประดับแพรแถบ ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 4 พ.ค.62 โดยมีการวางจำหน่ายตามท้องตลาดและเว็บไซค์ออนไลน์จำนวนมาก นับว่าเป็นการกระทำมิบังควร   จึงขอเตือนประชาชน และข้าราชการอย่าหลงซื้อ  เพราะการนำของปลอมมาใช้ประดับถือว่าเข้าข่ายมีความผิดด้วย 

                ทั้งนี้  การผลิตเหรียญแพรแถบ ต้องได้รับพระราขทานพระราชานุญาต และมีพระราชกฤษฎีการองรับตามกฎหมายด้วย   ดังนั้น ผู้ใดกระทำการปลอมแปลง หรือลักลอบจำหน่ายถือมีผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 250โทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และ ปรับตั้งแต่ 1-4 แสนบาท กรมธนารักษ์ จึงประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำผิด

นางวรนุช ภู่อิ่ม ที่ปรึกษาด้านการบริหารเหรียญกษาปณ์และทรัพย์สินมีค่า  กรมธนารักษ์ กล่าวว่า เหรียญที่ระลึกประดับแพรแถบปลอม มีขายในราคาเพียงเหรียญละ 600-800 บาท ขณะที่เหรียญของจริงกรมธนารักษ์จำหน่ายที่ 1,600 บาทต่อเหรียญ และเหรียญปลอม มีน้ำหนักเบา การพิมพ์ลวดลายไม่คมชัด ริบบิ้นแพรแถบใช้แบบพิมพ์สี  ขณะที่เหรียญของจริง จะทำจากเส้นไหมถักทอ และตัวเหรียญทำจากเงินแท้  

“ผู้ที่สนใจเหรียญที่ระลึกประดับแพรแถบในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 4 พฤษภาคม 62  สามารถติดต่อซื้อได้ที่กรมธนารักษ์  เพราะการผลิตทั้งโครงการได้รับอนุญาติผลิต 5 แสนเหรียญ ขณะนี้ผลิตเหรียญไปแล้ว   300,000 เหรียญ   และยังให้ผลิตได้อีก 200,000 เหรียญ ขณะเดียวกันยังมีเหรียญแพรแถบเนื่องในโอกาสที่ระลึกครบรอบ 60 พรรษาของรัชกาลที่ 10 จำหน่ายที่กรมธนารักษ์ ซึ่งข้าราชการที่มีความจำเป็นต้องใช้ยังสามารมาซื้อได้ที่กรมธนารักษ์”

                นอกจากนี้กรมธนารักษ์ ยังเตรียมจัดทำระบบประกาศราคากลางของเหรียญกษาปณ์ เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกในทุกรุ่นตั้งแต่กรมธนารักษ์เร่ิมจัดทำขึ้นมาสมัยรัชกาลที่ 4  เพื่อให้เป็นราคาอ้างอิงในการซื้อขายในตลาดทั่วไป โดยเฉพาะเหรียณในสมัยรัชกาลที่ 9 นับเป็นยุครุ่งเรืองของการผลิตเหรียญในโอกาสวาระคัญต่างๆนับร้อยวาระ คาดว่าในช่วง 3 เดือนข้างหน้า กรมธนารักษ์จะสามารถนำข้อมูลราคากลางของเหรียญทุกประเภทขึ้นเว็บไซค์เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เปรียบเทียบราคากับตลาดทั่วไป