‘อีซี่มันนี่’รุกขยายศูนย์โรงรับจำนำไฮโซ

ท่ามกลางความท้าทาย และโอกาสของธุรกิจโรงรับจำนำ ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปทั้งสภาพตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค และเทคโนโลยี “อีซี่ มันนี่” โรงรับจำนำไฮโซ ที่ก้าวเข้ามาปลุกตลาดโรงรับจำนำ ให้เป็นสถาบันการเงินทางเลือก กว่า 14 ปี ที่ผ่านมา ด้วยอัตราเติบโตแต่ละปีมากกว่า 50% หลังเปิดโรงรับจำนำเมืองรังสิต เป็นสาขาแรกเมื่อปี 2548 ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ากว่า 3 ล้านคน ด้วยเงินรับจำนำหมุนเวียนไม่ตํ่ากว่า 5.7 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตามแม้ “อีซี่ี มันนี่”จะปลุกตลาดให้คนที่มีทรัพย์กล้าเดินเข้ามาใช้บริการในระดับหนึ่ง แต่โรงรับจำนำยังไม่เป็นที่สนใจพอ ดังนั้น กลยุทธ์ปีนี้ “สิทธิวิชญ์ ตั้งธนาเกียรติ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตั้งธนสิน จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า จะรุกขยายสาขาเข้าไปหาทำเลชุมชนหรือย่านการค้าต่างๆ เพื่อเปิดให้ลูกค้าทดลองใช้บริการ โดยจะขยายสาขาเพิ่มอีก 7 แห่ง จากปัจจุบัน 43 แห่ง ซึ่งแต่ละสาขา จะใช้งบลงทุน เฉลี่ย 30-50 ล้านบาท ขึ้นกับขนาดพื้นที่ของสาขานั้นๆ

สิทธิวิชญ์ ตั้งธนาเกียรติ

นอกจากนั้นยังมีแผนเปิด “Easy Money Shop” ซึ่งเป็นช็อปรวบรวมและจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนม และจะมีทรัพย์หลุดจำนำประมาณ 4% ที่เซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 เป็นสาขาที่ 2 หลังจากเปิดให้บริการแห่งแรกที่เซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา มียอดซื้อขายเติบโตสูงถึง 60-70% มีเม็ดเงินหมุนเวียนราว 100 ล้านบาท โดยสินค้าส่วนใหญ่ที่ได้รับความนิยม จะเป็นแหวนเพชร แบรนด์เนม ส่วนเป้าหมายลูกค้าสาขา 2 นี้ จะแบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าหรือ จะ Pre Order สินค้าที่ต้องการตามหา และลูกค้าทั่วไป ที่ต้องการซื้อหรือ นำสินค้ามาฝากขายก็สามารถทำได้

“เราตั้งเป้ารับจำนำปีนี้เติบโต 20% จากปัจจุบันที่มียอดจำนำสะสมหรือเงินหมุนเวียนอยู่ที่ราว 5.7 หมื่นล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ 25% ซึ่งโครงสร้างรายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากรายได้ดอกเบี้ย และมีบางส่วนที่มาจากรายได้จากการขายสินค้าหลุดจำนำ”

ปัจจุบันบริษัทมีเงินหมุนเวียนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 1,000 ล้านบาทต่อเดือนเป็น 3,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งเปิดเทอมจะเป็นช่วงที่มีความต้องการใช้เงินค่อนข้างสูง บริษัทจึงเตรียมวงเงินสำหรับเปิดเทอมปีนี้ไว้ราว 2,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อนที่ 2,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการที่จะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่วงปลายปีและก่อนสงกรานต์จะเห็นปริมาณธุรกรรมเพิ่มขึ้น 1-2 เท่าของธุรกรรมปกติ

“จากจุดแข็งของอีซี่ มันนี่ ที่มีประเภททรัพย์รับจำนำที่หลากหลาย โดยเฉพาะมีผู้เชี่ยวชาญในการประเมินราคาทรัพย์แต่ละประเภทกว่า 100 คนซึ่งถ้าเป็นทองคำจะใช้เวลาพิจารณาเพียง 3 นาที”

นอกจากนั้น ยังมีความยืดหยุ่น ที่ลูกค้าสามารถกำหนดได้ว่า เมื่อมีเงินเข้า สามารถผ่อนชำระ ปิดบัญชี หรือเมื่อต้องการใช้วงเงิน ก็นำทรัพย์มาเป็นหลักประกันใหม่ เพราะทรัพย์ที่มีเหมือนเป็นวงเงินเบิกเกินบัญชี(โอดี) โดยสินค้าที่เป็นไฮไลต์ และมีลูกค้านำมาจำนำทรัพย์มากที่สุด จะเป็นทองคำและเพชร สัดส่วนสูงถึง 90% เพราะเป็นทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง รองลงมาจะเป็น นาฬิกาแบรนด์เนม ตามด้วยกระเป๋าแบรนด์เนมและสินค้าไอที ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่เติบโตมากขึ้นเฉลี่ย 40-50% และมีการเก็บออมในรูปทรัพย์สินต่างๆ

“สิ่งที่เกิดขึ้น สังคมเปลี่ยน รสนิยมคนเปลี่ยนใช้ของดีเพิ่มขึ้นในทุกอาชีพและทุกช่วงอายุซึ่งสะท้อนพฤติกรรมลูกค้า ที่ฉลาดใช้ ฉลาดซื้อ และเป็นคนเก็บเงินได้ ใช้เงินเป็น เช่น คนเก็บเงินในรูปนาฬิกาโรเล็กซ์ ซึ่งเป็นทรัพย์ที่ราคามีแต่เพิ่มขึ้น เมื่อเห็นโอกาสลงทุน ก็เปลี่ยนเป็นสภาพคล่องและต้องการเงินหมุนเวียนไปใช้ในธุรกิจระยะสั้น จึงเป็นดอกเบี้ยและได้ใช้ประโยชน์”

ดังนั้น “อีซี่ มันนี่” จึงต้องเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อมตอบสนองลูกค้า ที่มีความต้องการใช้เงินระยะสั้น โดยลูกค้าไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมส่วนหน้า (Fee Front End) หรือค่าประเมิน เหมือนสถาบันการเงิน และไม่ต้องเสี่ยงที่จะไม่ได้รับวงเงินสินเชื่อ แต่หากลูกค้านำทรัพย์มาไว้กับอีซี่มันนี่ จะคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1.25% ต่อเดือน หรือ 15% ต่อปีเท่านั้น

หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,470 วันที่ 16 - 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2562