"NOBLE" ปันผลสูงปรี๊ด 30% ควัก 3 พันล้าน จ่าย - 'กิตติ' รับเต็ม ๆ พันล้าน

27 ก.พ. 2562 | 01:58 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ก.พ. 2562 | 17:10 น.
ฮือฮา! NOBLE ควัก 3,150 ล้านบาท จ่ายปันผลตอบแทนต่อหุ้นสูงถึง 30% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดันราคาหุ้น NOBLE ดีดรับข่าวปรับเพิ่ม 6 บาท ... "กิตติ ธนากิจอำนวย" รับ 1,079 ล้านบาท ... โบรกฯ ตั้งสังเกตกระแสเงินสด จากการขายโครงการเพลินจิต มูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท ยัน! ไม่กระทบหนี้สิน/ทุน

สร้างความฮือฮาไม่น้อย สำหรับหุ้น บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (บมจ.) หรือ NOBLE ที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลดำเนินงานงวด 9 เดือนแรก ปี 2561 (ม.ค. - ก.ย. 61) อัตราหุ้นละ 6.90 บาท หรือคิดเป็นเงินปันผลตอบแทนถึงหุ้นละ 30% เทียบราคาหุ้นปิด วันที่ 22 ก.พ. 2562 ที่ 20.00 บาท กำหนดจ่ายในวันที่ 22 มี.ค. 2562

ส่งผลให้ราคาหุ้น NOBLE ปิดเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2562 ดีดตัวขึ้นเป็น 26 บาท เพิ่มขึ้น  6 บาท หรือปรับเพิ่มในอัตราเดียวกับการจ่ายปันผล และย้อนหลังไป หุ้น NOBLE ในรอบ 1 เดือน มีการเก็งกำไร ดันราคาจาก ณ วันที่ 22 ม.ค. 2562 ปิดที่ 15.70 บาท เพิ่มเป็น 20.00 บาท เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2562 หรือเพิ่มขึ้น 27.39% ล่าสุด (26 ก.พ. 62) ราคาปิด 24.50 บาท


MP18-3448-A

NOBLE มีทุนจดทะเบียน 456.47 ล้านหุ้น ซึ่งหมายความว่า บริษัทต้องใช้งบในการจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้น 3,149.64 ล้านบาท ปัจจุบัน โครงสร้างผู้ถือหุ้นมี นายกิตติ ธนากิจอำนวย ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 สัดส่วน 34.27% จะได้รับเงินปันผลตอบแทน 1,079.30 ล้านบาท, บริษัท n Crowne จำกัด (ถือหุ้นโดยกรรมการและผู้บริหารของ NOBLE) ถือหุ้นอันดับ 2 สัดส่วน 22.83% ได้รับเงินปันผลประมาณ 719 ล้านบาท

นายแฟรงค์ ฟง คึ่นเหลียง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NOBLE กล่าวว่า การอนุมัติจ่ายเงินปันผลของบริษัทครั้งนี้ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับจากที่บริษัทก่อตั้งมา จาก 2 วัตถุประสงค์ คือ 1.บริษัทต้องการที่จะตอบแทนผู้ถือหุ้น เนื่องจากช่วงระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราการจ่ายเงินปันผลสะสมต่อกำไรสุทธิเพียง 16% เมื่อเทียบกับการจ่ายเงินปันผลในอุตสาหกรรมที่อยู่ในอัตราประมาณ 48% ทำให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทได้รับผลตอบแทนที่ค่อนข้างตํ่ากว่าค่าเฉลี่ย และอีกประการหนึ่ง คือ การที่บริษัทประสบความสำเร็จในการสร้างยอดขายเพื่อรับรู้รายได้ในอนาคตเมื่อสิ้นไตรมาสที่ 3 /2561 เป็นจำนวนถึง 16,800 ล้านบาท และยอดขายดังกล่าวได้ทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 /2561 เป็นต้นมา

พร้อมยืนยันแหล่งเงินที่ใช้จ่ายเงินปันผลครั้งนี้ มาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินการของบริษัท มิได้เกิดจากการออกตราสารหนี้ หรือ สร้างหนี้เพิ่ม อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อส่วนทุนของบริษัทยังมีตํ่ากว่า 2.5 เท่า และคาดว่า ภายในสิ้นปี 2562 อัตราส่วนดังกล่าวจะลดลงอยู่ที่ระดับ 2.1 เท่า โดยบริษัทยังมีแผนการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ได้วางแผนลงทุนจัดหาซื้อที่ดินใหม่เพื่อพัฒนาโครงการ จำนวน 2.5 พันล้านบาท และยังมีสินค้าคงเหลือที่เกิดจากโครงการที่สร้างเสร็จและที่อยู่ระหว่างดำเนินการอีกจำนวนหนึ่ง

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ก่อนหน้านี้ NOBLE มีปัญหาโครงสร้างภายใน ทำให้บริษัทเว้นระยะการลงทุนหรือไม่มีโครงการใหม่ให้เห็น จนเมื่อ นายกิตติ ธนากิจอำนวย และ บจก.n Crowne เข้าซื้อหุ้นใหญ่จากผู้ถือหุ้นเดิมเมื่อกลางปีที่แล้ว และ Mr.Stephane Michale Rosales Sedano ได้ถอนตัวออกไป ฉะนั้น จึงอยู่ในช่วงการจัดงบดุล ซึ่งต้องจับตาว่า หลังจากนี้จะเริ่มโปรเจ็กต์ลงทุนใหม่ ๆ อย่างไร

"กรณีนี้โนเบิลเป็นการนำรายได้จากการขายแบ็กล็อก โดยเฉพาะโครงการโนเบิลที่เพลินจิต มูลค่าโครงการกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท ล่าสุด บริษัทได้จัดแคมเปญกระตุ้นการขาย เริ่มต้นที่ 1.9 แสนบาทต่อตารางเมตร โดยลดลงจากราคาสูงสุดที่เคยตั้งไว้เมื่อต้นปี 2560 ที่ 2.7 แสนบาทต่อตารางเมตร ถือว่าขายดีมาก เพราะเทียบโปรเจ็กต์ที่อยู่ในรอบบริเวณเดียวกัน เฉลี่ยที่ 3 แสนบาทต่อตารางเมตร ปัจจุบันมียอดขายมากกว่า 60% ดังนั้น จึงมีรายได้จากการขายในส่วนนี้นำมาจ่ายปันผลพิเศษ ส่วนหนี้สินของบริษัทอยู่ระดับ 3,000-4,000 ล้านบาท เทียบกับทุนที่ 6,700 ล้านบาท สัดส่วนหนี้สินต่อทุนจึงไม่ได้สูง"

ด้าน นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บมจ.หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส กล่าวว่า การประกาศจ่ายปันผลรอบนี้ของ NOBLE ถือว่าผิดปกติ เนื่องจากไม่ได้จ่ายปันผลสะสมมาหลายครั้ง เพราะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ครั้งนี้จึงเป็นการจ่ายชดเชยจากที่ไม่ได้จ่ายมานาน

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,448 วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2562

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-8