‘เอพีเอ็ม’ สยายปีกธุรกิจที่ปรึกษา ตั้งบริษัทย่อยในสิงคโปร์รุกสู่ภูมิภาค

เอพีเอ็ม รุกหนักธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินต่างประเทศ เตรียมตั้งบริษัทย่อยในสิงคโปร์ ต่อยอดขยายฐานลูกค้าระดับภูมิภาคเอเชีย หลังเห็นแนวโน้มอุตสาหกรรมดี ความต้องการระดมทุนผ่านตลาดหุ้นยังมีอีกมาก รวมถึงการจดทะเบียนแบบดูอัล ลิสติ้ง ด้านธุรกิจที่ลาวโตต่อเนื่อง เตรียมตั้งบริษัทลีสซิ่ง ศึกษาโอกาสธุรกิจประกันภัย ครอบคลุมธุรกิจด้านการเงินการลงทุนให้ครบวงจร

นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจปี 2559 ว่า บริษัทเตรียมจัดตั้งบริษัท เอพีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ประเทศสิงคโปร์เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

ทั้งนี้บริษัทในย่อยในสิงคโปร์ จะมีส่วนสำคัญในการต่อยอดธุรกิจด้านที่ปรึกษาทางการเงินไปยังภูมิภาคมากขึ้น และเพิ่มช่องทางในการดำเนินธุรกิจให้มีความหลากหลายและครบวงจรมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะงานด้านที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะทำให้บริษัทมีใบอนุญาตในการดำเนินงานด้านนี้ และสามารถผลักดันให้เกิดการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แบบดูอัล ลิสติ้ง ( Dual Listing ) หรือการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 2 ตลาด ได้ เช่นการเทรดทั้งในตลาดหลักทรัพย์ลาวและตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ในอนาคต ภายหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) อย่างเต็มรูปแบบ

การตั้งบริษัทที่ปรึกษาในสิงคโปร์ จะขยายฐานของลูกค้าและนักลงทุน รวมทั้งเพิ่มเครื่องมือทางการเงินให้มีความหลากหลายและครบวงจรไปยังกลุ่มอาเซียนและในภูมิภาคเอเชียมากขึ้น หลังจากที่บริษัทประสบความสำเร็จจากการตั้งบริษัทหลักทรัพย์ เอพีเอ็ม ลาว จำกัด เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าในสปป.ลาว

"เรามองเห็นโอกาสมากมายในธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินที่ยังมีแนวโน้มที่ดี แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่เชื่อว่าปีนี้จะกลับมาดีและมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งความต้องการคำแนะนำและการวางแผนโครงสร้างทางธุรกิจและการเงินเพื่อปรับตัวและรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคตยังมีอีกมาก " นายสมภพกล่าวและว่า

ทั้งนี้จากการขยายธุรกิจตามแผนงานปีนี้ เอพีเอ็ม จึงได้แต่งตั้งผู้บริหาร 2 ท่าน ได้แก่ นายเสกสรรค์ ธโนปจัย และ นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ซึ่งจะดูแลและรับผิดชอบงานทางด้านที่ปรึกษาทางการเงินที่เกี่ยวกับการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) รวมไปถึงด้านการออกตราสารทุนและตราสารหนี้ ด้านการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ด้านการปรับโครงสร้างหนี้ และงานที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) กรณีการได้มาและจำหน่ายไปตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

ขณะที่คณะกรรมการบริษัทมีมติแต่งตั้งนายสมภพขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการ เพื่อดูแลนโยบายและภาพรวมขององค์กรอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการรุกธุรกิจไปยังประเทศสิงคโปร์ และโอกาสในการจัดตั้งบริษัทภายใต้ APM ในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม CLMV โดยในปีนี้ บริษัทมีแผนจะขยายธุรกิจในสปป.ลาว ด้วยการเปิดธุรกิจลีสซิ่งเพื่อต่อยอดธุรกิจในสายตลาดเงินและตลาดทุน ในนาม บริษัท เอพีเอ็ม ลีสซิ่ง จำกัด ซึ่งน่าจะได้รับใบอนุญาตเพื่อประกอบธุรกิจได้ ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ โดยจะให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ทั้งเก่าและใหม่ รถจักรยานยนต์ อุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น พร้อมทั้งศึกษาโอกาสในการดำเนินธุรกิจด้านประกันภัย โดยน่าจะมีข้อสรุป ในช่วงปลายปี 2559 – ต้นปี 2560 เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจลีสซิ่งและให้บริการกับนักธุรกิจในสปป.ลาว

สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจของเอพีเอ็มในไทย ปี 2559 คาดว่าจะยื่นข้อมูลของบริษัทเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ประมาณ 7-8 บริษัท เช่น ธุรกิจกาวอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เครื่องมือแพทย์ ผู้ประกอบการเอาต์เลต ขนาดใหญ่ ธุรกิจด้านวัสดุก่อสร้าง เป็นต้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,120 วันที่ 7 - 9 มกราคม พ.ศ. 2559