Play
CWT รับสองเด้ง หลังออเดอร์เบาะหนังทะลัก พร้อมรับรู้รายได้โรงไฟฟ้า
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
“ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป” ยิ้มรับสองเด้ง หลังคว้าออเดอร์เบาะหนังรถโมเดลใหม่อีกเพียบ ด้านธุรกิจไฟฟ้าเริ่มรับรู้รายได้โซล่าร์สหกรณ์ พร้อม COD ชีวมวลปีนี้ เดินหน้าลงทุนพลังงานทางเลือกต่อเนื่อง
นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CWT เปิดเผยว่า ในปีนี้ภาพรวมของบริษัทฯมีทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่องทั้งธุรกิจเดิมคือผลิตภัณฑ์หนังสัตว์ฟอก และบริการฟอกหนัง รวมถึงธุรกิจพลังงานทดแทนซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ โดยล่าสุดบริษัทฯได้รับคำสั่งผลิตหนังสำหรับเบาะรถยนต์จำนวน 4 รุ่น ให้กับผู้ผลิตรถยนต์ 2 รายจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ ในขณะที่ธุรกิจพลังงานทดแทนในปีนี้จะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการ และสหกรณ์ภาคการเกษตร ซึ่งบริษัท ชัยวัฒนา กรีน เพาเวอร์ จำกัด หรือ CWTG ซึ่งเป็นบริษัทฯย่อยของ CWT ร่วมลงทุนกับบริษัท บลู โซลาร์ฟาร์ม 3 จำกัด หรือ BSF3 โดยเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 49% โดยเป็นผู้สนับสนุนโครงการของสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.สมุทรสาคร จำกัด ซึ่งได้ดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือ COD ไปแล้วตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559
ในขณะเดียวกันบริษัทฯอยู่ในระหว่างดำเนินการเพื่อให้ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ หรือ IFA เข้าพิจารณาตรวจสอบการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัท โคกเจริญ กรีนเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งบริษัท ชัยวัฒนา กรีน เพาเวอร์ จำกัด หรือ CWTG เข้าไปลงทุน โดยในปัจจุบันอยู่ในระหว่างรอรายงานจาก IFA และจะนำโครงการดังกล่าวเข้าที่ประชุมเพื่อขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นภายในเดือนเมษายน 2560 รวมถึงบริษัทฯอยู่ในระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลอีกหนึ่งแห่ง และรอความชัดเจนสำหรับหลักเกณฑ์ในการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขยะชุมชนจากกพช. ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการประกาศเป้าหมายในการรับซื้อไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 80 เมกะวัตต์ ซึ่งถ้าหากมีความชัดเจน บริษัทฯก็พร้อมที่จะเสนอชื่อเพื่อเป็นผู้ดำเนินการในโครงการดังกล่าว
“ในปีนี้ถือว่าเป็นปีที่เรามีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจเดิมก็มีออเดอร์จากผู้ผลิตรถยนต์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้เรามีรายได้ที่แน่นอน ส่วนธุรกิจพลังงานทดแทนก็จะมีรายได้เข้ามาตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปจากโครงการโซล่าร์สหกรณ์ร่วมกับ BSF3 ทั้งนี้เราเองยังคงมองหาโอกาสในการขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าจากขยะชุมชนที่เราศึกษาอยู่ หากหลักเกณฑ์การรับซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชนมีความชัดเจนเมื่อไหร่ เราก็พร้อมที่จะเสนอชื่อเข้าไปร่วมขอดำเนินการ” นายวีระพลกล่าว
นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CWT เปิดเผยว่า ในปีนี้ภาพรวมของบริษัทฯมีทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่องทั้งธุรกิจเดิมคือผลิตภัณฑ์หนังสัตว์ฟอก และบริการฟอกหนัง รวมถึงธุรกิจพลังงานทดแทนซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ โดยล่าสุดบริษัทฯได้รับคำสั่งผลิตหนังสำหรับเบาะรถยนต์จำนวน 4 รุ่น ให้กับผู้ผลิตรถยนต์ 2 รายจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ ในขณะที่ธุรกิจพลังงานทดแทนในปีนี้จะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการ และสหกรณ์ภาคการเกษตร ซึ่งบริษัท ชัยวัฒนา กรีน เพาเวอร์ จำกัด หรือ CWTG ซึ่งเป็นบริษัทฯย่อยของ CWT ร่วมลงทุนกับบริษัท บลู โซลาร์ฟาร์ม 3 จำกัด หรือ BSF3 โดยเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 49% โดยเป็นผู้สนับสนุนโครงการของสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.สมุทรสาคร จำกัด ซึ่งได้ดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือ COD ไปแล้วตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559
ในขณะเดียวกันบริษัทฯอยู่ในระหว่างดำเนินการเพื่อให้ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ หรือ IFA เข้าพิจารณาตรวจสอบการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัท โคกเจริญ กรีนเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งบริษัท ชัยวัฒนา กรีน เพาเวอร์ จำกัด หรือ CWTG เข้าไปลงทุน โดยในปัจจุบันอยู่ในระหว่างรอรายงานจาก IFA และจะนำโครงการดังกล่าวเข้าที่ประชุมเพื่อขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นภายในเดือนเมษายน 2560 รวมถึงบริษัทฯอยู่ในระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลอีกหนึ่งแห่ง และรอความชัดเจนสำหรับหลักเกณฑ์ในการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขยะชุมชนจากกพช. ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการประกาศเป้าหมายในการรับซื้อไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 80 เมกะวัตต์ ซึ่งถ้าหากมีความชัดเจน บริษัทฯก็พร้อมที่จะเสนอชื่อเพื่อเป็นผู้ดำเนินการในโครงการดังกล่าว
“ในปีนี้ถือว่าเป็นปีที่เรามีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจเดิมก็มีออเดอร์จากผู้ผลิตรถยนต์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้เรามีรายได้ที่แน่นอน ส่วนธุรกิจพลังงานทดแทนก็จะมีรายได้เข้ามาตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปจากโครงการโซล่าร์สหกรณ์ร่วมกับ BSF3 ทั้งนี้เราเองยังคงมองหาโอกาสในการขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าจากขยะชุมชนที่เราศึกษาอยู่ หากหลักเกณฑ์การรับซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชนมีความชัดเจนเมื่อไหร่ เราก็พร้อมที่จะเสนอชื่อเข้าไปร่วมขอดำเนินการ” นายวีระพลกล่าว