เริ่มแล้ว "ศักดิ์สยาม" นำทีมเปิดศูนย์ GPS กว่า 300 ล้าน อัพเกรดขนส่งทางถนน

11 ส.ค. 2565 | 10:33 น.

“ศักดิ์สยาม” นำทีมเปิดศูนย์ GPS กว่า 300 ล้านบาท ครอบคลุมรถสาธารณะ 5 แสนคัน สั่ง “กรมขนส่ง” ถกอุตสาหกรรมฯ กำหนดมาตรฐานรถใหม่ติด GPS คุมความเร็วรถ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานวันคล้ายวันสถาปนากรมการขนส่งทางบก ครบรอบ 81 ปี และเปิดอาคารศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีการขนส่งทางถนน ว่า สำหรับการเปิดศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างเป็นทางการ โดยใช้งบประมาณก่อสร้างประมาณ 300 กว่าล้านบาท เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 61 จนถึงปี 65 แล้วเสร็จ ซึ่งจะเป็นก้าวสําคัญการผลักดันให้เกิดการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาระบบการขนส่งทางถนนอย่างเป็นรูปธรรม โดยการใช้เทคโนโลยี GPS ในการกํากับ ดูแล ความเร็วและชั่วโมงการทํางานของผู้ขับรถ สาธารณะให้ปลอดภัย

 

 

 สำหรับภารกิจของศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีการขนส่งทางถนน คือการควบคุมกำกับดูแลการเดินรถ ความเร็ว ชั่วโมงการทำงาน และบริหารข้อมูลการเดินรถให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งด้านการป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุ ลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ โดยใช้ประโยชน์จากข้อมูล GPS ซึ่งเป็นนวัตกรรมดิจิทัลที่สำคัญด้านหนึ่ง เพื่อกำกับ ควบคุม ดูแล การขนส่งรถสาธารณะทุกประเภท ทั้งรถรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป รถบรรทุกวัตถุอันตราย และรถลากจูง รถโดยสารสาธารณะ เช่น รถตู้ รถโดยสารประจำทาง รถโดยสารไม่ประจำทาง (ยกเว้นรถสองแถว) จำนวนกว่า 5 แสนคัน

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ภายใต้การทำงานของศูนย์นวัตกรรมฯ แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชม. เช่น ภารกิจการตรวจสอบและควบคุมการใช้ความเร็วของรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก ซึ่งจะสามารถส่งข้อมูลแจ้งตำแหน่งของรถ เพื่อประสานสั่งการสำนักงานขนส่ง ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และสำนักงานขนส่งจังหวัด 76 แห่งทั่วประเทศ เข้าดำเนินการควบคุมกำกับพฤติกรรมการขับรถที่อาจเป็นอันตรายอย่างทันท่วงที ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางถนน เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ พัฒนาคุณภาพผู้ประกอบการขนส่งและพนักงานขับรถสาธารณะให้มีความรับผิดชอบและเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น

เริ่มแล้ว \"ศักดิ์สยาม\" นำทีมเปิดศูนย์ GPS กว่า 300 ล้าน อัพเกรดขนส่งทางถนน

 

ทั้งนี้ในอนาคตมอบนโยบายให้ ขบ. ศึกษาเรื่องการนำระบบ GPS มาใช้ในการป้องกันอุบัติเหตุ เพื่อควบคุมการขับขี่ได้อย่างปลอดดภัยเหมือนกับประเทศที่มีการพัฒนาแล้ว รวมทั้งให้ลองไปศึกษาการบูรณาการร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมที่จะกำหนดเรื่องมาตรฐานรถใหม่ที่จะเข้ามาจะต้องติดตั้งอุปกรณ์ GPS มาในตัวรถให้เรียบร้อย อย่างประเทศสิงคโปร์ ที่เมื่อจำหน่ายรถจะมีการติดตั้งระบบ GPS มาพร้อม ไม่ใช่มาซื้อติดตั้งทีหลัง

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันต้องพัฒนานำเทคโนโลยีการระบุตัวตนด้วยคลื่นความถี่ (RFID) มาใช้ด้วย โดยต้องศึกษาความเหมาะสมตำแหน่งที่จะติดตั้งแล้วมีประสิทธิภาพในการตรวจคลื่นความถี่ได้ สามารถดู ทะเบียนรถ สีรถเช็กความถูกต้อง และตรวจสอบประวัติอาชญากรรมได้ รวมทั้งมาตรวสอบรถที่ใช้ผ่านระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติพิเศษแบบไม่มีไม้กั้น (Multi-lane Free Flow) หรือ M-Flow ของกรมทางหลวง (ทล.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ทั้งนี้ยังช่วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติในเรื่องของการควบคุมความเร็วที่ใช้บนนถนนเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด ป้องกันการเกิดข้อโต้แย้งกับผู้ใช้ทาง รวมทั้งป้องกันปัญหาอาชญากรรม และสร้างความสงบเรียบร้อยในอนาคต

เริ่มแล้ว \"ศักดิ์สยาม\" นำทีมเปิดศูนย์ GPS กว่า 300 ล้าน อัพเกรดขนส่งทางถนน

 

 นอกจากนี้ ขบ. เตรียมเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านที่วิ่งระหว่างประเทศไทยเกี่ยวกับเรื่องระบบ GPS เพื่อเกิดการดำเนินงานกำกับดูแล ควบคุม ไม่ให้มีการใช้รถผิดไปจากที่กฎหมายกำหนดด้วย และขอให้ตรวจสอบเรื่องรถบรรทุกน้ำหนักเกิน โดยมอบหมายให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ทล. กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และตำรวจทางหลวง (ตร.ทล.)