เปิดตัวเครื่องหยอดเมล็ดพืช ปุ๋ย แบบอัตโนมัติพ่วงท้ายรถแทรกเตอร์

23 ส.ค. 2565 | 08:54 น.

กรมวิชาการเกษตร เปิดตัวสุดยอดเครื่องหยอดเมล็ดพืชและหยอดปุ๋ยแบบอัตโนมัติพ่วงท้ายรถแทรกเตอร์ ช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต นำร่องไปสู่เกษตรอัจฉริยะ สอดรับนโยบายดันไทยเป็น Seed Hub

นายระพีภัทร์  จันทรศรีวงศ์  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า  ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์พืชที่มีศักยภาพของภูมิภาคเอเชีย    มีการส่งออกเมล็ดพันธุ์ไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียนมากเป็นอันดับ 1  ซึ่งในกระบวนการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชขั้นตอนการปลูกโดยการหยอดหรือหว่านเมล็ดถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญหากในขั้นตอนการปลูกไม่มีประสิทธิภาพจะส่งผลต่อความงอกของเมล็ดและการเจริญเติบโตของพืชโดยตรง

เปิดตัวเครื่องหยอดเมล็ดพืช ปุ๋ย  แบบอัตโนมัติพ่วงท้ายรถแทรกเตอร์

 

ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลงตามไปด้วย  โดยขั้นตอนการปลูกโดยใช้เครื่องหยอดที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันสามารถหยอดพืชได้เฉพาะอย่างเท่านั้น  เนื่องจากเมล็ดพันธุ์แต่ละชนิดมีขนาดเมล็ดที่ไม่เท่ากัน  และมีคำแนะนำอัตราการหยอดที่ไม่เท่ากัน คือ จำนวนเมล็ดต่อหลุม ระยะห่างระหว่างหลุม  และระยะห่างระหว่างแถว 

 

เปิดตัวเครื่องหยอดเมล็ดพืช ปุ๋ย  แบบอัตโนมัติพ่วงท้ายรถแทรกเตอร์

นอกจากอัตราการหยอดที่ต้องปรับเปลี่ยนตามชนิดของพืชแล้ว ลักษณะของดินในแต่ละพื้นที่ก็มีความอุดมสมบูรณ์และปริมาณแร่ธาตุที่แตกต่างกันจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืชโดยตรง หากเกษตรกรสามารถใส่สูตรปุ๋ยให้ปริมาณตรงตามลักษณะของดินและปริมาณแร่ธาตุที่มีอยู่ในดินตามคำแนะนำการปลูกพืช ก็จะช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีและทำให้ได้ผลผลิตสูงขึ้น 

 

เปิดตัวเครื่องหยอดเมล็ดพืช ปุ๋ย  แบบอัตโนมัติพ่วงท้ายรถแทรกเตอร์

อย่างไรก็ตามหากนำเครื่องหยอดเมล็ดพร้อมใส่ปุ๋ยรองพื้นที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันมาประยุกต์ให้สามารถหยอดเมล็ดพืชและปุ๋ยให้ได้อัตราที่หลากหลายเพื่อให้ได้อัตราหยอดตามคำแนะนำการปลูกของพืชแต่ละชนิดจำเป็นต้องดัดแปลงเครื่องหยอดจึงทำให้เกิดความยุ่งยาก  รวมทั้งการปรับเปลี่ยนอัตราการหยอดด้วยวิธีดังกล่าวยังไม่มีความแม่นยำอีกด้วย

 

 

เปิดตัวเครื่องหยอดเมล็ดพืช ปุ๋ย  แบบอัตโนมัติพ่วงท้ายรถแทรกเตอร์

 

นายระพีภัทร์  จันทรศรีวงศ์  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า  ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์พืชที่มีศักยภาพของภูมิภาคเอเชีย    มีการส่งออกเมล็ดพันธุ์ไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียนมากเป็นอันดับ 1  ซึ่งในกระบวนการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชขั้นตอนการปลูกโดยการหยอดหรือหว่านเมล็ดถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญหากในขั้นตอนการปลูกไม่มีประสิทธิภาพจะส่งผลต่อความงอกของเมล็ดและการเจริญเติบโตของพืชโดยตรง  

 

ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลงตามไปด้วย  โดยขั้นตอนการปลูกโดยใช้เครื่องหยอดที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันสามารถหยอดพืชได้เฉพาะอย่างเท่านั้น  เนื่องจากเมล็ดพันธุ์แต่ละชนิดมีขนาดเมล็ดที่ไม่เท่ากัน  และมีคำแนะนำอัตราการหยอดที่ไม่เท่ากัน คือ จำนวนเมล็ดต่อหลุม ระยะห่างระหว่างหลุม  และระยะห่างระหว่างแถว 

 

นอกจากอัตราการหยอดที่ต้องปรับเปลี่ยนตามชนิดของพืชแล้ว   ลักษณะของดินในแต่ละพื้นที่ก็มีความอุดมสมบูรณ์และปริมาณแร่ธาตุที่แตกต่างกันจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืชโดยตรง หากเกษตรกรสามารถใส่สูตรปุ๋ยให้ปริมาณตรงตามลักษณะของดินและปริมาณแร่ธาตุที่มีอยู่ในดินตามคำแนะนำการปลูกพืช ก็จะช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีและทำให้ได้ผลผลิตสูงขึ้น

 

เปิดตัวเครื่องหยอดเมล็ดพืช ปุ๋ย  แบบอัตโนมัติพ่วงท้ายรถแทรกเตอร์

 

อย่างไรก็ตามหากนำเครื่องหยอดเมล็ดพร้อมใส่ปุ๋ยรองพื้นที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันมาประยุกต์ให้สามารถหยอดเมล็ดพืชและปุ๋ยให้ได้อัตราที่หลากหลายเพื่อให้ได้อัตราหยอดตามคำแนะนำการปลูกของพืชแต่ละชนิดจำเป็นต้องดัดแปลงเครื่องหยอดจึงทำให้เกิดความยุ่งยาก  รวมทั้งการปรับเปลี่ยนอัตราการหยอดด้วยวิธีดังกล่าวยังไม่มีความแม่นยำอีกด้วยให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตในขั้นตอนการเพาะปลูกได้  อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันการผลิตพืชไร่ของไทย

 

 

“เทคโนโลยีที่ได้จากงานวิจัยนี้จะเป็นการก้าวไปสู่การทำเกษตรแบบแม่นยำในยุคการเกษตร 4.0 หรือเกษตรอัจฉริยะที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนในขั้นตอนการเพาะปลูก  เพิ่มมูลค่าผลผลิตด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่  และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืช    รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันให้กับการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชของไทยเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตเมล็ดพันธุ์พืช (Seed Hub)

เปิดตัวเครื่องหยอดเมล็ดพืช ปุ๋ย  แบบอัตโนมัติพ่วงท้ายรถแทรกเตอร์

 

ตามนโยบายของรัฐบาล  พร้อมต่อยอดการพัฒนาเมล็ดพันธุ์เป็นสินค้าส่งออกในอนาคต   สร้างความยั่งยืนให้กับภาคการเกษตรของไทย  เกษตรกรที่สนใจนำเครื่องหยอดเมล็ดและปุ๋ยแบบอัตโนมัติไปใช้งานหรือนำไปรับจ้างสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มวิจัยวิศวกรรมผลิตพืช สถาบันวิจัยเกษตรวิศวกรรม กรมวิชาการเกษตร   โทรศัพท์  02-5792757” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าว