KEY
POINTS
นางพัชรวีร์ สุวรรณิก รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรนํ้าแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะโฆษก สทนช เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ" ว่า งานที่ค้างท่อ ที่จะต้องรอรัฐบาลใหม่ เห็นชอบแผนงานโครงการด้านทรัพยากรน้ำที่หน่วยงานเสนอ จำนวน 9 โครงการ ที่ผ่านคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เห็นชอบในหลักการ งบร่วม 2 แสนล้านบาท ดังนี้
1.โครงการคลองระบายน้ำหลากชัยนาท - ป่าสัก - อ่าวไทย
2. โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคสาขาเชียงราย อ.เมืองเชียงราย เวียงชัย - แม่ลาว จ.เชียงราย
3. โครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. คลองประเวศบุรีรมย์ ช่วงจากเขื่อนเดิมคลองจระเข้ขบถึงสุดเขตกรุงเทพมหานคร
4.โครงการบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่างอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เพชรบุรี
5.โครงการคลองระบายน้ำคลองทับมา - คลองกะแมง อ.บ้านค่าย และ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง
6. โครงการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์-หนองค้อ-บางพระ จ.ชลบุรี
7. โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยาย การประปาส่วนภูมิภาคสาขาชลบุรี-พนัสนิคม-(พานทอง)-(ท่าบุญมี) ระยะที่ 2 จ.ชลบุรี
8. โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยาย การประปาส่วนภูมิภาคสาขาพัทยา-แหลมฉบัง-ศรีราชา จ.ชลบุรี
9. โครงการอ่างเก็บน้ำบ้านหนองกระทิง จ.ฉะเชิงเทรา โดยหน่วยงานผู้รับผิดชอบ ได้แก่ กรมชลประทาน การประปาส่วนภูมิภาค และกรุงเทพมหานคร
“เนื่องจากเป็นแผนระยะยาว บางโครงการมีถึง 10 ปี เม็ดเงินประมาณ ร่วม 2 แสนล้านบาท ก็ต้องรอให้รัฐบาลใหม่มาพิจารณาเห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง ว่าจะเป็นไปตามมติเดิมหรือปรับเปลี่ยนอย่างไรต่อไป”
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เผยว่า เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 มีประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 5/2568 โดยมี นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบมาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2568/2569 จำนวน 8 มาตรการ ซึ่งมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปดำเนินการป้องกันและบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำ และเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงต่อไป สำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบสถานการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ในระหว่างการเร่งแก้ไขและฟื้นฟูให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
อีกทั้ง มีมติเห็นชอบผังน้ำเพิ่มเติม จำนวน 6 ผัง ได้แก่ ผังน้ำลุ่มน้ำโขงเหนือ ลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำแม่กลอง ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนบน ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา และลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันตก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ และลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติด้านน้ำ โดยทั้ง 2 เรื่องดังกล่าว รัฐบาลรักษาการสามารถทำได้ทันที