ลุ้นเดินหน้าต่อ ถกค้าไทย-สหรัฐ ติวเข้ม 3 หมัดเด็ดมัดใจมะกัน ลดภาษี 0% สินค้าไทย

21 พ.ย. 2568 | 04:35 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ย. 2568 | 04:46 น.

ผู้เชี่ยวชาญ-ภาคส่งออก ติวเข้มรัฐบาลเจรจาต่อรองสหรัฐรอบใหม่ หวังลดภาษีสินค้าไทย 1,080 รายการลงเป็น 0-5% ช่วยเพิ่มยอดนำเข้า ชูโลจิสติกส์ อำนาจการซื้อสินค้าสหรัฐของไทยมากกว่ากัมพูชา MOU แร่หายากจูงใจมะกันลดภาษี win win ด้าน สรท.ห่วงสินค้าสวมสิทธิ์ กฎถิ่นกำเนิดสินค้าฉุดส่งออก

KEY

POINTS

  • ภาคเอกชนและผู้เชี่ยวชาญเสนอ 3 กลยุทธ์หลักให้รัฐบาลใช้เจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ เพื่อผลักดันให้การค้าเดินหน้าและลดภาษีสินค้าไทย
  • ชูจุดเด่นของไทยในการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ มีกำลังซื้อสินค้าสหรัฐฯ สูง และมีความร่วมมือด้านแร่หายากเพื่อจูงใจสหรัฐฯ
  • เป้าหมายหลักคือการเจรจาให้สหรัฐฯ ลดภาษีสินค้าไทยกว่า 1,080 รายการให้เหลือ 0% เช่น สินค้าเกษตรแปรรูปและชิ้นส่วนยานยนต์

ผู้เชี่ยวชาญ-ภาคส่งออก ติวเข้มรัฐบาลเจรจาต่อรองสหรัฐรอบใหม่ หวังลดภาษีสินค้าไทย 1,080 รายการลงเป็น 0-5% ช่วยเพิ่มยอดนำเข้า ชูโลจิสติกส์ อำนาจการซื้อสินค้าสหรัฐของไทยมากกว่ากัมพูชา MOU แร่หายากจูงใจมะกันลดภาษี win win ด้าน สรท.ห่วงสินค้าสวมสิทธิ์ กฎถิ่นกำเนิดสินค้าฉุดส่งออก

การเจรจาการค้าไทย-สหรัฐยังคงหยุดชั่วคราว แม้ไทยจะเริ่มบังคับใช้ดีลภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ที่สินค้าส่งออกไปสหรัฐต้องเสียภาษีเพิ่ม 19% ตั้งแต่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะทั้งสองฝ่ายกำลังหารือรายละเอียดของกรอบความตกลงการค้าต่างตอบแทน แต่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (ยูเอสทีอาร์) ได้ขอชะลอการเจรจา โดยกำหนดเงื่อนไขให้ไทยยืนยันปฏิบัติตามปฏิญญาสันติภาพร่วมไทย-กัมพูชา ขณะนายกฯ อนุทินระบุได้หารือกับผู้นำสหรัฐและมาเลเซียแล้ว และได้รับการยืนยันว่าประเด็นดังกล่าวจะไม่ถูกนำมาโยงกับการเจรจาการค้า ไทยพร้อมเดินหน้าต่อและกำลังรอหนังสือตอบรับจากยูเอสทีอาร์

รองศาสตราจารย์ ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศและอาเซียน เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าเรื่องนี้มองว่าเป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ และนำมาเกี่ยวโยงกับการเจรจาการค้าเพื่อกดดันไทย ซึ่งที่ผ่านมาในการเจรจาภาษีตอบโต้ของโดนัลด์ ทรัมป์ กับประเทศคู่ค้าจะใช้วิธี "ขู่เพื่อให้เกิดการเจรจาต่อรอง" ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นกัน เบื้องต้นมองว่าการระงับการเจรจาครั้งนี้ยังไม่ถึงขั้นเลวร้าย และยังอยู่ในกระบวนการของการเจรจา
รองศาสตราจารย์ ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศและอาเซียน

ทั้งนี้กรณีการระงับการเจรจาการค้ากับไทยของยูเอสทีอาร์นั้น ในข้อเท็จจริงยังสามารถกลับสู่โต๊ะเจรจาได้ เพราะส่วนใหญ่กรอบความตกลงที่จะเจรจากันในรายละเอียดครั้งนี้เป็นส่วนที่สหรัฐจะได้รับประโยชน์มากกว่าไทย เช่น ไทยจะซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของสหรัฐ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กากถั่วเหลือง ธัญพืชต่าง ๆ การซื้อพลังงาน ซื้อเครื่องบินสหรัฐคิดเป็นมูลค่า 800,000-900,000 ล้านบาท

ส่วนที่ดึงเรื่องไว้ขอระงับการเจรจาชั่วคราว มองว่าคือส่วนที่ไทยจะได้ประโยชน์ คือการพิจารณาปรับลดภาษีสินค้าในภาคผนวก III จำนวน 1,080 รายการ เช่น สินค้าเกษตร/เกษตรแปรรูป ยางธรรมชาติ แร่ธาตุ ยานพาหนะ ส่วนประกอบยานยนต์ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ในการเจรจาแม้ไทยจะมีอำนาจในการต่อรองน้อยกว่า แต่ไทยสามารถนำเสนอจุดเด่นของไทยเพื่อให้สหรัฐพิจารณาลดภาษีให้ไทย เช่น ไทยมีศักยภาพมากกว่ากัมพูชาทางด้านการเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์และสินค้าของอาเซียน กำลังซื้อสินค้าสหรัฐของไทยมีมากกว่ากัมพูชา ไทยมีแร่หายากและทำ MOU กับสหรัฐแล้ว และพร้อมจะร่วมมือกับสหรัฐเพื่อให้ไทยเป็นฐานห่วงโซ่แร่หายากของสหรัฐ นอกจากนี้ไทยยังมีอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่สหรัฐต้องการ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ที่สหรัฐสามารถมาขยายการลงทุนได้ ซึ่งในเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ทีมเจรจาของไทยสามารถหยิบยกใช้ในการเจรจาต่อรองได้
ลุ้นเดินหน้าต่อ ถกค้าไทย-สหรัฐ ติวเข้ม 3 หมัดเด็ดมัดใจมะกัน ลดภาษี 0% สินค้าไทย

ขณะที่นายธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ในการเจรจาการค้ากับสหรัฐของคณะเจรจา (ที่มีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นหัวหน้าคณะ) มีข้อมูลจากผู้ประกอบการ เกษตรกร และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว หวังการเจรจาจะเปิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ ซึ่งในเรื่องใดที่ไม่แน่ใจและจะมีกระทบก็ควรให้ถามภาคส่วนที่เกี่ยวข้องก่อน โดยในช่วงการระงับการเจรจาชั่วคราวนี้ยังสามารถสอบถามข้อมูลกลับมาได้

 “หากภาษีนำเข้าสหรัฐที่เพิ่มขึ้นอีก 19% บังคับใช้เต็มรูปแบบตลอดทั้งปี แนวโน้มการส่งออกไทยไปสหรัฐปีหน้าคาดจะลดลง ซึ่งที่เราจับตาคือสินค้าสวมสิทธิ์ และกฎถิ่นกำเนิดสินค้า (Local Content) ที่สหรัฐจะกำหนดออกมาจะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งออกไทยไปสหรัฐในปี 2569 ที่จะขยายตัวตามความเป็นจริงมากกว่าภาพลวงตา” นายธนากร กล่าว