พาณิชย์ แจงชัด USTR ส่งหนังสือขอหยุดเจรจา ยันเดินหน้าต่อจบในสิ้นปีนี้

17 พ.ย. 2568 | 08:54 น.
อัปเดตล่าสุด :17 พ.ย. 2568 | 09:50 น.

'โชติมา' อธ.กรมเจรจาการค้าฯ เผยหลัง USTR ส่งหนังสือขอยุติการเจรจา ไทยได้รับข้อความ–หารือระดับผู้นำทันที ยันเดินหน้าตามกรอบเวลาเดิม พร้อมแยกประเด็น “การค้า–ความมั่นคง” อย่างชัดเจน

KEY

POINTS

  • กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงกรณีที่สำนักงานผู้แทนการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา (USTR) ส่งหนังสือขอระงับการเจรจาด้านอัตราภาษีการค้ากับไทย
  • นายกรัฐมนตรีได้หารือกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ และยืนยันว่าไทยพร้อมที่จะเดินหน้าเจรจาต่อไป
  • รัฐบาลไทยยังคงเป้าหมายเดิมที่จะผลักดันการเจรจาให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลาเดิมภายในสิ้นปี 2568

วันนี้ (17 พฤศจิกายน 2568) นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงแนวทางการเจรจาภาษีสหรัฐ ว่า หลังจากสำนักงานผู้แทนการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา (USTR) ส่งหนังสือมายังรัฐบาลเพื่อแจ้งระงับการเจรจาด้านอัตราภาษีการค้าทวิภาคีระหว่างไทย-สหรัฐฯ นั้น โดยในวันเดียวกันนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ก็ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จนได้ข้อสรุป ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ยึดสิ่งที่ท่านผู้นำทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยกัน 

โดยทางนายกรัฐมนตรี จะมีการส่งหนังสือยืนยันกลับไปทาง USTR ว่าเราจะยังคงเดินหน้าพร้อมเจรจาภาาต่อไป

ทั้งนี้ยืนยันว่า กระทรวงพาณิชย์ได้มีการพูดคุยกับทางสหรัฐเรื่องการเจรจาภาษีมาอย่างต่อเนื่อง ทางกระทรวงพาณิชย์ได้เน้นย้ำกับทาง USTR มาตลอดว่าในการเจรจามีการแยกประเด็นเรื่องของการค้าและความมั่นคงออกอย่างชัดเจน และทางรัฐบาลเองยังคงให้ความสำคัญในเรื่องนี้ และมีความมั่นใจว่าทางสหรัฐมีเป้าหมายเดียวกันและยังคงเดินหน้าเจรจาตามกรอบเวลาเดิมให้เสร็จภายในสิ้นปี 2568 นี้

"ขอยืนยันว่าเรายังคงมุ่งมั่นในเป้าหมายเดิมแล้วก็จะทำงานอย่างเต็มที่ จะมีการหารือทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการ ผลกระทบต่าง ๆ จะต้องถูกนำมาพิจารณาอย่างครบถ้วนแล้วก็รอบด้าน ในส่วนเรื่องอัตรภาษียังคงมีการเก็บอัตราที่ 19%"

นางสาวโชติมา ระบุว่า กระทรวงพาณิชย์มีการทำงานและทำการบ้านอย่างจริงจัง เพื่อที่จะหารือกับสหรัฐอย่างเข้มข้น ซึ่งได้มีการจัดตั้งคณะทำงาน โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นหัวหน้าประธานฯ เรายังมุ่งมั่นที่จะทำงานในฝั่งของเรา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเจรจากับสหรัฐอย่างต่อเนื่อง ยึดในเป้าหมายเดิมต่อไป

อย่างไรก็ดี การเตรียมพร้อมผู้ประกอบการในประเทศเราจะสร้างขีดความสามารถในสินค้าที่มีศักยภาพ การหาตลาดใหม่ รวมถึงขยายประเทศคู่เจรจาคู่ค้าที่มีอยู่ในแง่ของการทำความตกลงการค้าเสรีฉบับใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ในช่วงภาวะการแข่งขันค่อนข้างสูง

นางสาวโชติมา กล่าวด้วยว่า ขณะนี้การเจรจาอยู่ในช่วงที่ต้องหารือในรายละเอียด หลังจากที่ได้มีการตกลงกรอบการเจรจากันแล้ว ซึ่งจำเป็นต้องมีการทำงานภายในประเทศของทั้งสองฝ่าย ซึ่งคณะทำงานของไทยจะมีการประชุมในเร็ว ๆ นี้ เพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนจะมีการกำหนดวันเจรจาที่แน่ชัดต่อไป 

โดยยืนยันว่า ในระหว่างนี้ไทยยังไม่มีการหยุดการทำงานใด ๆ และจะมีการหารือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการ เพื่อพิจารณาข้อมูลให้ครบถ้วนและรอบด้านต่อไป