นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่มีเสียงวิจารณ์ว่ารัฐบาลไม่ได้เตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์ลำไยนั้น กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญกับการสร้างเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร และการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ขจัดปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำอย่างยั่งยืน
สำหรับสถานการณ์ลำไยของ 8 จังหวัดภาคเหนือ เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา ลำปาง ตาก แพร่ และน่าน มีปริมาณถึง 1,064,242 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ที่มีปริมาณ 947,140 ตัน หรือเพิ่มขึ้นถึง 117,102,000 กิโลกรัม เนื่องจากสภาพอากาศเย็นยาวนาน เอื้อต่อการติดดอก ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์
โดยกรมการค้าภายใน ได้กำหนดแนวทางการบริหารจัดการผลไม้แบบครบวงจร 7 มาตรการ 25 แผนงาน ครอบคลุมทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ รวมถึงส่งเสริมการแปรรูปและปรับพื้นที่ให้เหมาะสม โดยตั้งเป้าหมายระบายผลไม้ 950,000 ตัน เฉพาะลำไยภาคเหนือ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงพื้นที่รับฟัง เสียงสะท้อนจากเกษตรกร โดยสั่งการให้กรมการค้าภายในและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการขับเคลื่อนมาตรการเชิงรุกเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ตั้งแต่ช่วงต้นฤดูทั้งการกระจายผลผลิตและขยายตลาดส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเพิ่มมาตรการเร่งด่วน ดังนี้
นอกจากมาตรการดังกล่าว ยังได้สั่งการให้ตั้ง War Room ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมกับกำหนดมาตรการฉุกเฉินในกรณีจำเป็น ได้แก่ ค่าบริหารจัดการให้โรงอบรับซื้อผลผลิตเพิ่มเพื่อรวบรวมรับซื้อลำไยรูดร่วง เพื่ออบแห้งส่งออกต่างประเทศ สำหรับด้านต่างประเทศ ได้สั่งการให้เร่งเปิดตลาดศักยภาพใหม่ ๆ และกระตุ้นผู้นำเข้า ในตลาดเป้าหมายหลัก ทั้งจีน อินเดีย อินโดนีเซีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์รวมถึงเพิ่มช่องทางออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซควบคู่กันไปด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ มีนโยบาย “การสร้างเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร” ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล โดยกระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับทุกหน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรเชิงโครงสร้าง ทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งจะกำหนดพื้นที่เป้าหมายจัดทำ Sandbox เพื่อเป็นต้นแบบให้กับสินค้าเกษตรทุกชนิด
ขณะเดียวกันปัญหาเฉพาะหน้า โดยเฉพาะเรื่องเสถียรภาพด้านราคา กระทรวงพาณิชย์ต้องพร้อมที่จะดูแลแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้พี่น้องเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนเหมือนที่ผ่านมา