นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยความคืบหน้าการเจรจาภาษีสหรัฐว่า มีความคืบหน้าไปในทิศทางที่ดีทั้ง 2 ฝ่ายมีความพึงพอใจมากขึ้น ครั้งนี้เป็นการเจรจากับ ผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) ได้มีข้อเสนอให้ไทยพิจารณาประมาณ 3 เรื่อง
อย่างไรก็ตามต้องมีการพิจารณาอย่างใกล้ชิดว่าไทยจะตอบรับข้อเสนอสหรัฐมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะรายละเอียดของสินค้ามากกว่า หมื่นรายการ เช่น สินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรม ที่สหรัฐยังไม่บรรลุการเจรจากับไทย
นอกจากนั้น มาตรการที่ไม่ใช่ภาษี (NTBs) ที่ทีมไทยแลนด์ ต้องมาดูผลกระทบ ซึ่งหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ที่ผ่านมา ได้เตรียมข้อมูลการเจรจาเชิงเทคนิค (ลิสต์มาร์เก็ต) อาทิ
ทั้งนี้เบื้องต้นหลังจากมีการส่งข้อเสนอให้กับ (USTR) ทางทีมเจรจาฝั่งสหรัฐนั้น ทางสหรัฐค่อนข้างพึงพอใจในทิศทางแต่ทั้งที่ถูกต้อง ยืนยันว่าการเจรจาจะจบ ภายในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ยอมรับว่าทีมเจรจามีความกังวลในสินค้าโลคอลคอนเทนต์เนื่องจากมีประเด็นที่อ่อนไหวจะกระทบประเทศที่สาม
ขณะเดียวกันแผนการลงทุนที่ไทยเสนอให้สหรัฐ พึงพอใจ เพื่อให้ธุรกิจสหรัฐฯ ลงทุนในประเทศไทย ส่วนในรายละเอียดต้องความเหมาะสมว่าไทยสามารถทำได้มากน้อย
"ยอมรับว่าระยะเวลาเจรจามมีจำกัดทุกชาติเร่งที่จะไปคุย USTR ทุกประเทศต้องปิดดีลให้จบภายในวันที่ 1 ส.ค. 68 หากสหรัฐส่งข้อเรียกร้องมาทางทีมไทยแลนด์พร้อมพิจารณาและส่งกลับได้เร็วยิ่งขึ้น ยอมรับว่าข้อเสนอหรือข้อเรียกร้องเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา"
อย่างไรก็ดียอมรับว่าโลคอลคอนเทนต์ในประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปมีการใช้สัดส่วนของสินค้าต่างประเทศในการผลิตมากขึ้น การพูดคุยอย่างต่อเนื่องถือว่าเป็นสัญญานเจรจาที่ดี แต่ก็ไม่ได้ไว้วางใจและเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่
ทั้งนี้การเจรจาขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย
1. สิ่งที่ USTR คุยกับไทย
2. ต้องคุยกับเอกชนในประเทศให้เร็วที่สุด ยอมรับว่าสถานการณ์เปลี่ยนแปลงเร็วมาก ประเทศต่างๆ มีการเจรจาทั้งสำเร็จและไม่สำเร็จ แม้ว่าจะมีการพูดคุยอยู่ก็ต้องคุยให้เร็วมากยิ่งขึ้นเพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงรวดเร็วทุกวัน
"เมื่อมีการแข่งขันเข้ามาเป็นโอกาสให้ประเทศไทยปรับตัวเพื่อให้อุตสาหกรรมไทยแข่งขันได้ แม้ว่าจะมีการเจรจาหรือไม่ก็ต้องปรับตัว ไม่ได้อย่างให้มองว่าสหรัฐได้ประโยขน์จากไทยอย่างเดียว"