"พาณิชย์" จัดสัมมนามาตรการตอบโต้ ปกป้องอุตสาหกรรมไทย! รับมือการค้าโลก

นางชนินทร หริ่มเจริญ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาความเป็นธรรมทางการค้า และให้การคุ้มครองผู้ผลิตในประเทศจากการค้าที่ไม่เป็นธรรมและจากการนำเข้าที่เพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติ ผ่านเครื่องมือที่เรียกว่ามาตรการปกป้องและตอบโต้ทางการค้า ได้แก่ 

• มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (มาตรการ AD) 
• มาตรการตอบโต้ การอุดหนุน (มาตรการ CVD) 
• มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (มาตรการ Safeguard) 
• มาตรการตอบโต้การหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน (มาตรการ AC)

โดยได้ดำเนินการอย่างเข้มแข็งและจริงจังภายใต้กรอบของกฎหมายกับทุกประเทศอย่างเท่าเทียม โดยไม่เลือกปฏิบัติในการตอบโต้ทางการค้ากับประเทศใดประเทศหนึ่ง

นางชนินทร กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ ได้เตรียมรองรับสถานการณ์ทางการค้าดังกล่าวอย่างเข้มข้น จริงจัง ได้มีการเฝ้าระวังการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ และการนำเข้าสินค้าที่ทุ่มตลาด ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมภายในของไทยได้

โดยมีการหารือกับกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตภายในประเทศอย่างใกล้ชิด และเร่งดำเนินการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการไทย 

โดยเตรียมความพร้อมในการจัดทำข้อมูลเพื่อยื่นคำขอใช้มาตรการต่างๆ จึงได้เดินหน้าจัดงานการจัดสัมมนาและการประชุมเชิงปฏิบัติการ ในหัวข้อ “Navigating The New Trade Order : ทิศทางการปกป้องและตอบโต้ทางการค้าในยุคระเบียบการค้าโลกใหม่” ครั้งที่ 2 ในวันพุธที่ 2 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรมโนโวเทล มารินา ศรีราชา แอนท์ เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี

เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ให้กับทุกท่านในทุกมิติ ทั้งด้านการปกป้องและตอบโต้การค้าที่ไม่เป็นธรรม และการสร้างศักยภาพให้กับผู้ประกอบการไทยในเวทีการค้าโลก

นางชนินทร กล่าวเพิ่มเติมว่า ซึ่งการจัดงานสัมมนาฯ ในครั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศได้รับเกียรติจากผู้แทนภาคเอกชนในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ได้แก่ ท่อโลหะ และแปรรูปเหล็กแผ่นอุตสาหกรรมอลูมิเนียม กลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง และผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิจัยเชิงพาณิชย์ 

รวมถึงผู้เชี่ยวชาญ ด้านมาตรการปกป้องและตอบโต้ทางการค้า และผู้เชี่ยวชาญด้านการนำเข้าและรับรองถิ่นกำเนิด มาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ ซึ่งถือเป็นการจัดสัมมนาเชิงเทคนิคที่เป็นความร่วมมือของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนช่วยกันจับมือฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน