ค้านนำเข้าธัญพืชจีเอ็มโอ-ปศุสัตว์ทุกชนิด จากสหรัฐฯ ผวาทุบราคาในประเทศตกต่ำ

02 พ.ค. 2568 | 10:36 น.
อัปเดตล่าสุด :02 พ.ค. 2568 | 10:50 น.

สภาเกษตรกรแห่งชาติ ออกมาเคลื่อนไหวใหญ่ ค้านนำเข้าธัญพืชจีเอ็มโอ-ปศุสัตว์ทุกชนิด จากสหรัฐฯ เข้าไทย ผวาทุบราคาในประเทศตกต่ำ ชี้รัฐบาลเจรจาต้องดึงเข้าร่วมวงด้วย หวั่นได้ไม่คุ้มเสีย

 

ค้านนำเข้าธัญพืชจีเอ็มโอ-ปศุสัตว์ทุกชนิด จากสหรัฐฯ ผวาทุบราคาในประเทศตกต่ำ

นายนัยฤทธิ์ จำเล ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เผยถึง ผลกระทบจากการเจรจาทางการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกับสหรัฐอเมริกา ที่ส่งผลต่อภาคเกษตรกรรมไทย สภาเกษตรกรแห่งชาติได้แสดงความห่วงกังวลต่อแนวนโยบายการเจรจาทางการค้าในประเด็นการจัดเก็บภาษีและการนำเข้าสินค้าเกษตรที่อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อเกษตรกรไทย  ดังนี้

 

“ข้าวโพด“ ปัญหาและข้อเสนอเชิงนโยบาย

สภาเกษตรกรแห่งชาติได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนในการคัดค้านการนำเข้าข้าวโพดที่มีการตัดแต่งพันธุกรรม (GMO) ราคาถูกจากสหรัฐอเมริกา  เนื่องจากจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดในประเทศไทย ทั้งในด้านราคาและความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งในประเด็นนี้ สภาเกษตรกรแห่งชาติได้เสนอมาตรการเชิงรุกหลายประการ ได้แก่

•การจัดให้มีระบบประกันราคาข้าวโพดที่เป็นธรรมและสอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่แท้จริง

•การพิจารณางดการนำเข้าข้าวโพดจากต่างประเทศในช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ไทยมีการปลูกข้าวโพดเป็นจำนวนมากและผลผลิตออกสู่ตลาด เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาข้าวโพดในประเทศ

•การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีการเกษตรที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่และลดต้นทุนการผลิต 

 

“ถั่วเหลือง” เกษตรกรรายย่อยผวาโดนหางเลข

สำหรับในที่ประชุมได้แสดงความกังวลอย่างมากต่อการนำเข้าถั่วเหลือง GMO จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองในประเทศไทย โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยที่ไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้ สภาเกษตรกรแห่งชาติได้เน้นย้ำจุดยืนที่ไม่ต้องการให้มีการแลกเปลี่ยนระหว่างการนำเข้าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศกับการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมของไทย เนื่องจากเป็นการสร้างความเสียเปรียบให้กับภาคเกษตรกรรมไทย 

มีข้อเสนอสำคัญในประเด็นนี้ ดังนี้

• การพิจารณานำเข้าเฉพาะวัตถุดิบที่ขาดแคลนอย่างแท้จริง เช่น กากถั่วเหลือง เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ 

• หากมีความจำเป็นต้องนำเข้า ควรมีมาตรการอุดหนุน (subsidize) เกษตรกรอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม เพื่อช่วยให้เกษตรกรไทยสามารถปรับตัวและพัฒนาศักยภาพการผลิตให้ทัดเทียมกับตลาดโลก 

•การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ถั่วเหลืองที่ให้ผลผลิตสูงและเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย

"ผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์" เสี่ยงสุขภาพผู้บริโภคและผลกระทบต่อเกษตรกร

"เนื้อวัว"

• มีความเสี่ยงจากโรควัวบ้า (Bovine Spongiform Encephalopathy: BSE) ซึ่งเป็นโรคร้ายแรงที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค

• การใช้สารเร่งเนื้อแดง (Ractopamine) ในการเลี้ยงวัวของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสารที่หลายประเทศรวมทั้งสหภาพยุโรปและจีนห้ามใช้เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย 


“สุกร”
• มีการใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยงสุกรของสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค 
• การนำเข้าเนื้อสุกรราคาถูกจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาสุกรภายในประเทศและกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย 


"สัตว์ปีก"
• มีความเสี่ยงจากการปนเปื้อนเชื้อไข้หวัดนก ซึ่งเป็นโรคระบาดที่สำคัญและอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศ 
• การนำเข้าสัตว์ปีกราคาถูกจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่รายย่อยในประเทศไทย

ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์
• อาจมีการปนเปื้อนของเชื้อวัวบ้าในอาหารสัตว์ที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ยางพารา: ปัญหาการลักลอบนำเข้าและการกดราคารับซื้อ


ทั้งนี้ข้อเสนอหลักต่อการค้าระหว่างประเทศ
นายนัยฤทธิ์ กล่าวว่า จากการหารือในประเด็นผลกระทบจากการค้าระหว่างประเทศ สภาเกษตรกรแห่งชาติได้สรุปข้อเสนอสำคัญเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกรไทย ดังนี้

1. ไม่ควรนำเข้าสินค้าเกษตรที่ไทยสามารถผลิตได้เองจากสหรัฐอเมริกาหรือประเทศอื่นๆ เพื่อรักษาความมั่นคงทางอาหารและปกป้องเกษตรกรไทย 
2. ก่อนการพิจารณานำเข้าสินค้าเกษตรใดๆ ควรมีการหารือเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเกษตรกรไทยร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ เพื่อให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างรอบคอบและคำนึงถึงผลประโยชน์ของเกษตรกรเป็นสำคัญ 
3. ขอให้รัฐบาลมีการปกป้องคุ้มครองสินค้าเกษตรของไทยในทุกมิติ ทั้งด้านมาตรฐานความปลอดภัย การรักษาเสถียรภาพของราคา และการส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพการผลิตให้ทัดเทียมกับตลาดโลก 


ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการเจรจาทางการค้า
ที่ประชุมได้แสดงความกังวลว่าหากการเจรจาภาษีกับสหรัฐอเมริกาไม่ประสบความสำเร็จ อาจส่งผลกระทบต่อราคาข้าวหอมมะลิของประเทศไทยในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของข้าวไทย ซึ่งในประเด็นนี้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้ชี้แจงว่าหากการหารือด้านภาษีไม่ประสบความสำเร็จ อาจมีผลให้ราคาสินค้าเกษตรของไทยในตลาดสหรัฐอเมริกาสูงกว่าประเทศคู่แข่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตรไทยในตลาดโลก อย่างไรก็ตามการใช้สินค้าเกษตรไปแลกกับการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของเกษตรกรไทยเป็นสำคัญ