นายนัยฤทธิ์ จำเล ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เผยถึง ผลกระทบจากการเจรจาทางการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกับสหรัฐอเมริกา ที่ส่งผลต่อภาคเกษตรกรรมไทย สภาเกษตรกรแห่งชาติได้แสดงความห่วงกังวลต่อแนวนโยบายการเจรจาทางการค้าในประเด็นการจัดเก็บภาษีและการนำเข้าสินค้าเกษตรที่อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อเกษตรกรไทย ดังนี้
“ข้าวโพด“ ปัญหาและข้อเสนอเชิงนโยบาย
สภาเกษตรกรแห่งชาติได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนในการคัดค้านการนำเข้าข้าวโพดที่มีการตัดแต่งพันธุกรรม (GMO) ราคาถูกจากสหรัฐอเมริกา เนื่องจากจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดในประเทศไทย ทั้งในด้านราคาและความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งในประเด็นนี้ สภาเกษตรกรแห่งชาติได้เสนอมาตรการเชิงรุกหลายประการ ได้แก่
•การจัดให้มีระบบประกันราคาข้าวโพดที่เป็นธรรมและสอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่แท้จริง
•การพิจารณางดการนำเข้าข้าวโพดจากต่างประเทศในช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ไทยมีการปลูกข้าวโพดเป็นจำนวนมากและผลผลิตออกสู่ตลาด เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาข้าวโพดในประเทศ
•การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีการเกษตรที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่และลดต้นทุนการผลิต
“ถั่วเหลือง” เกษตรกรรายย่อยผวาโดนหางเลข
สำหรับในที่ประชุมได้แสดงความกังวลอย่างมากต่อการนำเข้าถั่วเหลือง GMO จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองในประเทศไทย โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยที่ไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้ สภาเกษตรกรแห่งชาติได้เน้นย้ำจุดยืนที่ไม่ต้องการให้มีการแลกเปลี่ยนระหว่างการนำเข้าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศกับการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมของไทย เนื่องจากเป็นการสร้างความเสียเปรียบให้กับภาคเกษตรกรรมไทย
มีข้อเสนอสำคัญในประเด็นนี้ ดังนี้
• การพิจารณานำเข้าเฉพาะวัตถุดิบที่ขาดแคลนอย่างแท้จริง เช่น กากถั่วเหลือง เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์
• หากมีความจำเป็นต้องนำเข้า ควรมีมาตรการอุดหนุน (subsidize) เกษตรกรอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม เพื่อช่วยให้เกษตรกรไทยสามารถปรับตัวและพัฒนาศักยภาพการผลิตให้ทัดเทียมกับตลาดโลก
•การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ถั่วเหลืองที่ให้ผลผลิตสูงและเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย
"ผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์" เสี่ยงสุขภาพผู้บริโภคและผลกระทบต่อเกษตรกร
"เนื้อวัว"
• มีความเสี่ยงจากโรควัวบ้า (Bovine Spongiform Encephalopathy: BSE) ซึ่งเป็นโรคร้ายแรงที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค
• การใช้สารเร่งเนื้อแดง (Ractopamine) ในการเลี้ยงวัวของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสารที่หลายประเทศรวมทั้งสหภาพยุโรปและจีนห้ามใช้เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย
“สุกร”
• มีการใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยงสุกรของสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค
• การนำเข้าเนื้อสุกรราคาถูกจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาสุกรภายในประเทศและกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย
"สัตว์ปีก"
• มีความเสี่ยงจากการปนเปื้อนเชื้อไข้หวัดนก ซึ่งเป็นโรคระบาดที่สำคัญและอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศ
• การนำเข้าสัตว์ปีกราคาถูกจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่รายย่อยในประเทศไทย
ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์
• อาจมีการปนเปื้อนของเชื้อวัวบ้าในอาหารสัตว์ที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ยางพารา: ปัญหาการลักลอบนำเข้าและการกดราคารับซื้อ
ทั้งนี้ข้อเสนอหลักต่อการค้าระหว่างประเทศ
นายนัยฤทธิ์ กล่าวว่า จากการหารือในประเด็นผลกระทบจากการค้าระหว่างประเทศ สภาเกษตรกรแห่งชาติได้สรุปข้อเสนอสำคัญเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกรไทย ดังนี้
1. ไม่ควรนำเข้าสินค้าเกษตรที่ไทยสามารถผลิตได้เองจากสหรัฐอเมริกาหรือประเทศอื่นๆ เพื่อรักษาความมั่นคงทางอาหารและปกป้องเกษตรกรไทย
2. ก่อนการพิจารณานำเข้าสินค้าเกษตรใดๆ ควรมีการหารือเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเกษตรกรไทยร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ เพื่อให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างรอบคอบและคำนึงถึงผลประโยชน์ของเกษตรกรเป็นสำคัญ
3. ขอให้รัฐบาลมีการปกป้องคุ้มครองสินค้าเกษตรของไทยในทุกมิติ ทั้งด้านมาตรฐานความปลอดภัย การรักษาเสถียรภาพของราคา และการส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพการผลิตให้ทัดเทียมกับตลาดโลก
ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการเจรจาทางการค้า
ที่ประชุมได้แสดงความกังวลว่าหากการเจรจาภาษีกับสหรัฐอเมริกาไม่ประสบความสำเร็จ อาจส่งผลกระทบต่อราคาข้าวหอมมะลิของประเทศไทยในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของข้าวไทย ซึ่งในประเด็นนี้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้ชี้แจงว่าหากการหารือด้านภาษีไม่ประสบความสำเร็จ อาจมีผลให้ราคาสินค้าเกษตรของไทยในตลาดสหรัฐอเมริกาสูงกว่าประเทศคู่แข่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตรไทยในตลาดโลก อย่างไรก็ตามการใช้สินค้าเกษตรไปแลกกับการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของเกษตรกรไทยเป็นสำคัญ