ทะลวงแผนลงทุน ‘กทพ.’ ปลุก 10 'ทางด่วนสายใหม่' 2.2 แสนล้าน

ปัจจุบันการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ยังคงผลักดันก่อสร้างทางด่วนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทางด่วนสายใหม่ที่จะเกิดขึ้นสามารถแบ่งเบาปริมาณรถยนต์จากถนนปกติ ทำให้การจราจรโดยรวมคล่องตัวขึ้น ตลอดจนเกิดการขยายตัวของเมืองไปสู่พื้นที่ใหม่ๆ

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากทพ.เปิดให้บริการทางพิเศษ (ทางด่วน) จำนวน 8 เส้นทาง รวมระยะทาง 224.6 กิโลเมตร ปัจจุบันกทพ.มีแผนลงทุนโครงการทางด่วนและพื้นที่เชิงพาณิชย์หลายแห่งภายในปี 2568-2569  รวม 10 โครงการ วงเงินรวม 220,371 ล้านบาท 

สำหรับโครงการทางพิเศษจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงกะทู้-ป่าตอง ระยะทาง 3.98 กม. วงเงิน 16,757 ล้านบาท ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ กทพ. ดำเนินโครงการเมื่อ 26 ส.ค. 2568

ปัจจุบันอยู่ระหว่างกทพ.รอประกาศเชิญชวนหาเอกชนผู้รับจ้าง (ทีโออาร์) เพื่อก่อสร้างโครงการภายใน 3 เดือนหรือไม่เกินเดือนธันวาคมนี้ คาดว่าจะได้ตัวผู้ชนะการประมูลภายในต้นปี 2569 ซึ่งจะเริ่มการก่อสร้างภายในปี 2569 ระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี ก่อนเปิดให้บริการภายในปี 2572

ส่วนโครงการทางพิเศษจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ ระยะทาง 30.62 กม. วงเงิน 46,752 ล้านบาท

ขณะนี้กทพ.เตรียมเสนอกระทรวงคมนาคมขออนุมัติดำเนินโครงการในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP)และงานบำรุงรักษา (O&M) ซึ่งจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในปี 2570-2572
 

นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ด้านโครงการโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 (งามวงศ์วาน-พระราม 9) หรือ Double Deckระยะทาง 20.09 กม. วงเงิน 34,800 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) พิจารณา

ขณะที่ความคืบหน้าโครงการทางพิเศษเชื่อมต่อทิศตะวันออกกับตะวันตกของกรุงเทพฯ ช่วงแคราย-พหลโยธิน (N1) ระยะทาง 12.6 กม. วงเงิน 10,550 ล้านบาท

ปัจจุบันกทพ.เตรียมทบทวนศึกษาความเหมาะสมของโครงการฯ เนื่องจากที่ผ่านมาจากการศึกษารูปแบบการก่อสร้างเป็นอุโมงค์ ทำให้มีต้นทุนค่าก่อสร้างสูง ซึ่งจะต้องหารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) และกรมทางหลวง (ทล.) ในการขออนุญาตใช้พื้นที่เขตทาง โดยรูปแบบการก่อสร้างเป็นทางยกระดับ 4 ช่องจราจร

ส่วนโครงการทางพิเศษฉลองรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออก (N2) ระยะทาง 6.67 กม. วงเงิน 13,666 ล้านบาท ปัจจุบันสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.)อยู่ระหว่างเสนอต่อครม.เห็นชอบให้กทพ.ดำเนินโครงการภายในปีนี้ 

นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ความคืบหน้าโครงการทางพิเศษสายศรีนครินทร์ – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะทาง 15.80 กม. วงเงิน 20,538 ล้านบาท ขณะนี้กทพ.ได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสมของโครงการแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างเตรียมเสนอต่อกระทรวงคมนาคมเห็นชอบ ตามแผนเริ่มก่อสร้างภายในปี 2570-2573
 

นอกจากนี้ยังมีโครงการทางเชื่อมต่อท่าเรือกรุงเทพและทางพิเศษสายบางนา - อาจณรงค์ (S1) ระยะทาง 2.25 กม. วงเงิน 4,984 ล้านบาท ที่ผ่านมาโครงการนี้มีการศึกษาความเหมาะสมและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเสร็จแล้ว

แต่มีการชะลอไปช่วงหนึ่ง เนื่องจากต้องรอการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) พิจารณาแผนท่าเรือคลองเตยให้มีความชัดเจนก่อน เพราะโครงการทางด่วนสายนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนดังกล่าว จากนั้นจะมีการหารือถึงสัดส่วนการลงทุนค่าก่อสร้างร่วมกันต่อไป ตามแผนจะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2570-2572

นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมฯ จำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 37.41 กม. วงเงิน 55,000 ล้านบาท ตามแผนของโครงการอยู่ระหว่างการศึกษา

จากนั้นจะจัดประชุมกลุ่มย่อยครั้งที่ 3 ภายในเดือนพ.ย.-ธ.ค. 2568 ก่อนที่จะสรุปผลการศึกษาของโครงการฯหลังสรุปผลการศึกษาแล้วเสร็จจะเข้าสู่ขั้นตอนการขออนุมัติโครงการจากคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ. พร้อมจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ในช่วงต้นปี 2569 

ทั้งนี้โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย จะเข้าสู่ขั้นตอนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบภายในปลายปี 2569 และหากได้รับความเห็นชอบในปี 2570 จะเข้าสู่การเปิดประมูล ก่อนเริ่มกระบวนการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินในปี 2571 จากนั้นจะเริ่มการก่อสร้างในปี 2572 โดยใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 5 ปี คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2577

ด้านความคืบหน้าโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะช้าง จังหวัดตราด ระยะทาง 6.00 กม. วงเงิน 15,000 ล้านบาท ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม ผลงาน 68.95% ณ เดือนส.ค. 2568 คาดได้ข้อสรุปแนวเส้นทางที่เหมาะสมของโครงการฯภายในต้นปี 2569 

อย่างไรก็ดีกทพ.ยังมีโครงการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทาง (Rest Area) ในเขตทางพิเศษ ตั้งอยู่บริเวณ กม. 17+300 ของทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) พื้นที่ 60 ไร่ วงเงิน 2,324 ล้านบาท  

ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมเห็นชอบให้ กทพ. ดำเนินโครงการในรูปแบบ PPP ซึ่งอยู่ระหว่างรอสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เสนอต่อคณะกรรมการ PPP พิจารณา ก่อนเปิดประมูลหาเอกชนร่วมลงทุนภายในปี 2569 

เมกะโปรเจ็กต์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,132 วันที่ 18 - 20 กันยายน พ.ศ. 2568