เช็คมาตรการข่วยเหลือช่วยชาวไร่อ้อยกระทบสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา

26 ธ.ค. 2568 | 09:44 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ธ.ค. 2568 | 09:44 น.

บอร์ด กอน.เคาะมาตรการ 3 ระยะข่วยเหลือช่วยชาวไร่อ้อยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการร์ความไม่สงบพื้นชายแดนไทย-กัมพูชา

KEY

POINTS

  • คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) มีมติเห็นชอบแนวทางช่วยเหลือชาวไร่อ้อยใน 5 จังหวัดชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบไทย-กัมพูชา
  • มาตรการช่วยเหลือแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะสั้น/เร่งด่วนเพื่อสำรวจพื้นที่, ระยะกลางเพื่อช่วยเหลือการเก็บเกี่ยวหรือประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ, และระยะยาวเพื่อฟื้นฟู
  • แนวทางการเยียวยาครอบคลุมการประสานงานกับฝ่ายความมั่นคงเพื่อเข้าพื้นที่, การขอรับความช่วยเหลือทางการเงิน, การขอพักชำระหนี้จากโรงงานน้ำตาลและ ธ.ก.ส. รวมถึงการสนับสนุนพันธุ์อ้อยเพื่อฟื้นฟู

นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) มีมติเห็นชอบแนวทางการช่วยเหลือชาวไร่อ้อยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนระหว่างไทย - กัมพูชา” ซึ่งมีพื้นที่ปลูกอ้อยครอบคลุมแนวพื้นที่ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และสระแก้ว รวมเป็นพื้นที่ปลูกอ้อยมากกว่า 260,000 ไร่ 

โดยจะมีการกำหนดขอบเขตพื้นที่ปลูกอ้อยที่ได้รับผลกระทบอีกครั้งเมื่อสถานการณ์สิ้นสุดลง ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกอ้อยส่งเสริมของโรงงานน้ำตาลสุรินทร์ โรงงานน้ำตาลและอ้อยตะวันออก และโรงงานน้ำตาลนิวกว้างสุ้นหลี

สำหรับแนวทางการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูแก่เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดน มีมาตรการ 3 ระยะ ประกอบด้วย

มาตรการระยะสั้น/เร่งด่วน 

  • คณะทำงานกำกับดูแลการเก็บเกี่ยวอ้อยในพื้นที่เสี่ยงตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับโรงงานน้ำตาล และสถาบันชาวไร่อ้อยในพื้นที่ เพื่อกำหนดขอบเขตพื้นที่และรวบรวมข้อมูลพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบและมีความเสี่ยงว่ายังคงมีระเบิดตกค้างอยู่ในพื้นที่ รวมทั้งให้โรงงานน้ำตาลจัดทำแผนการรับอ้อย

เช็คมาตรการข่วยเหลือช่วยชาวไร่อ้อยกระทบสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา

มาตรการระยะกลาง/ช่วยเหลือ/เยียวยา

  • กรณีสามารถเข้าพื้นที่เพื่อตัดอ้อยออกจากแปลงได้ : ประสานหน่วยงานความมั่นคงเพื่อสแกนและตรวจสอบพื้นที่จนมั่นใจในความปลอดภัย จึงให้มีการเข้าพื้นที่เพื่อตัดอ้อยได้ และเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดขอให้มีการเผาอ้อยเพื่อเคลียร์พื้นที่และมองเห็นสิ่งตกค้างอยู่ในแปลงอย่างชัดเจนก่อนตัดอ้อย โดยผ่อนปรนให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ดังกล่าว
  • กรณีไม่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อตัดอ้อยออกจากแปลงได้ : หน่วยงานความมั่นคงแจ้งเสี่ยงเกินกว่าที่จะเข้าพื้นที่ได้ ให้เสนอผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ขอรับความช่วยเหลือให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อยต่อกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเสนอต่อรัฐบาลเพื่อขอรับความช่วยเหลือให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่จดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) รวมถึงขอความร่วมมือโรงงานน้ำตาลลดหย่อนดอกเบี้ย หรือพักการชำระหนี้ ให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ได้รับผลกระทบ และประสานกับ ธ.ก.ส. เพื่อขอการผ่อนผัน/พัก/ขยายระยะเวลาการชำระหนี้สิน ให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่เข้าร่วมโครงการชดเชยดอกเบี้ยฯ ปี 2568 - 2570 และใน 3 ระยะก่อนหน้านั้น

มาตรการระยะยาว/ฟื้นฟู

  • กรณีที่เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ไม่สามารถเข้าพื้นที่ตัดอ้อยได้ทั้งหมดหรือบางส่วน : ขอรับพันธุ์อ้อยจากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้ และดำเนินการอบรมให้ความรู้แก่เกษตรชาวไร่อ้อยเพื่อฟื้นฟูพื้นที่

“บอร์ด กอน. ได้เคาะแนวทางการช่วยเหลือเรียบร้อยแล้ว และ สอน. จะเร่งดำเนินการตามแนวทางต่อไป ขอให้วางแผนการเก็บเกี่ยวอ้อยและรับอ้อยเข้าหีบ โดยมุ่งคำนึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นลำดับแรก”