ความก้าวหน้าคนไทย หลุดแผนชาติ พิษเศรษฐกิจ-หนี้สิน ฉุดร่วง 2 ปีติด

15 ธ.ค. 2568 | 08:16 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ธ.ค. 2568 | 09:56 น.

สศช. เปิดรายงานดัชนีความก้าวหน้าของคนของประเทศไทย ล่าสุดในปี 2567 พบลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน หลุดยังแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 หลังเจอพิษเศรษฐกิจและหนี้สินครัวเรือนอยู่ในระดับสูง

KEY

POINTS

  • ดัชนีความก้าวหน้าของคนไทยปี 2567 ลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 อยู่ที่ 0.6363 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
  • สาเหตุหลักเกิดจากภาวะเศรษฐกิจขยายตัวต่ำ หนี้สินครัวเรือนระดับสูง และการจ้างงานลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และปัญหาสังคม
  • แม้ภาพรวมจะลดลง แต่ด้านคมนาคมและการสื่อสารมีระดับการพัฒนาสูงสุด ในขณะที่ด้านการศึกษาและการมีส่วนร่วมอยู่ในระดับต่ำที่สุดต่อเนื่อง

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เผยแพร่รายงาน ดัชนีความก้าวหน้าของคนของประเทศไทย ในปี 2567 พบว่า ความก้าวหน้าของคนในปี 2567 ลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยอยู่ที่ 0.6363 ลดลงจากปีก่อนที่มีค่า 0.6398 ส่งผลให้สถานการณ์การพัฒนาคนของไทยยังไม่บรรลุเป้าหมายตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ที่กำหนดไว้ที่ 0.7209

ด้านคมนาคมและการสื่อสารเป็นด้านที่มีระดับการพัฒนาสูงที่สุดตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงาน และการจัดสวัสดิการเพื่อช่วยเหลือที่ผู้ได้รับผลกระทบ โดยในปี 2567 ด้านคมนาคมและการสื่อสารมีค่า 0.8109 

ขณะที่ด้านการศึกษา เป็นด้านที่มีระดับการพัฒนาต่ำที่สุด โดยมีค่าดัชนีความก้าวหน้าของคนอยู่ที่ 0.5282 และด้านการมีส่วนร่วมมีระดับการพัฒนาคนต่ำสุด เป็นอันดับที่ 2 อยู่ที่ 0.5336 โดยทั้ง 2 ด้าน เป็นด้านที่มีอันดับต่ำที่สุดมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา

สศช. รายงานว่า การลดลงของการพัฒนาคนในปี 2567 เป็นผลมาจากการลดลงของการพัฒนาคนในด้านชีวิต ครอบครัวและชุมชน สุขภาพ เศรษฐกิจ และชีวิตการงาน มีสาเหตุมาจากการที่เศรษฐกิจไทยในปี 2567 ขยายตัวในระดับต่ำ โดย ขยายตัวเพียง 2.5% หนี้สินครัวเรือนอยู่ในระดับสูง และมีหนี้เสียเพิ่มขึ้น 

รวมทั้งมีการจ้างงานที่ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเกษตรกรรม ส่งผลกระทบไปถึงปัญหาด้านอื่น ทั้งการก่ออาชญากรรมปัญหาครอบครัว ขณะเดียวกัน ปี 2567 ประเทศไทยยังพบการเจ็บป่วยที่เพิ่มขึ้น อาทิ โรคปอดอักเสบมี ผู้ป่วยสูงถึง 3.98 แสนคน เพิ่มขึ้นจาก ปี 2566 หรือ 35.2% และโรคไข้หวัดใหญ่มีผู้ป่วย 6.51 แสนคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 55.2% อีกทั้งยังพบผู้ป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับสุขภาพจิต และโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในปี 2567 ยังมีด้านที่มีความก้าวหน้าของคนมากขึ้น คือ การศึกษา การคมนาคมและการสื่อสาร ที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อม และการมีส่วนร่วม โดยในด้านการศึกษาเกิดจากคุณภาพการศึกษาที่ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากคะแนน O-NET ของนักเรียนที่สูงขึ้น 

เช่นเดียวกับโอกาสในการได้รับการศึกษาที่ในปี 2567 มีอัตราการคงอยู่ในระบบการศึกษาเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจาก มาตรการแก้ไขปัญหาเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา รวมทั้งยังสามารถขยายโอกาสในการเรียนต่อในระดับการศึกษาที่สูงขึ้น สะท้อนจากอัตราการเข้าเรียนสุทธิในระดับอุดมศึกษาเพิ่มขึ้น

ขณะที่ด้านคมนาคมและการสื่อสารดีขึ้นจากการมีโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและการสื่อสารที่ขยายตัวครอบคลุม อีกทั้ง การมีนโยบายที่ให้สวัสดิการผ่านช่องทางออนไลน์ และการแนวโน้มการรับข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางออนไลน์ ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประชากรมากขึ้น

ส่วนในด้านที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมที่มีการพัฒนาดีขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากมาตรการในการส่งเสริมให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้น โดยรัฐบาลมีมาตรการสำคัญ คือการลดค่ารรรมเนียมการโอนและการจดจํานอง การลดหย่อนภาษีในการก่อสร้างบ้าน การผ่อนคลายมาตรการ LTV รวมถึงการให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์สนับสนุนสินเชื่อบ้านกับผู้มีรายได้น้อยถึงรายได้ปานกลาง

นอกจากนี้ ในด้านที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อม พบว่า ปี 2567 คุณภาพสิ่งแวดล้อมปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนหน้า โดยเฉพาะคุณภาพอากาศที่มีละอองฝุ่นขนาดเล็ก (PM2.5) ลดลง รวมทั้งการมีส่วนร่วมที่ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมา จากบทบาทและความเข้มแข็งของภาคประชาสังคมที่เพิ่มขึ้นสะท้อนจากจำนวนองค์กรชุมชนที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามความก้าวหน้าของคนมีแนวโน้มสอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เมื่อเปรียบเทียบการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงของดัชนีความก้าวหน้าของคน ระหว่างปี 2559 - 2567 (ไม่รวมปี 2563 ที่เป็นช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19) พบว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจขยายตัวต่ำ ดัชนีความก้าวหน้าของคนจะปรับตัวลดลง และจะเพิ่มขึ้นเมื่อเศรษฐกิจขยายตัวสูง 

ความสัมพันธ์ดังกล่าวเป็นผลจากองค์ประกอบของดัชนีความก้าวหน้าของคนในด้านที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจมีระดับ ความก้าวหน้าสูงกว่าด้านอื่น โดยด้านเศรษฐกิจและชีวิตการงาน มีค่าดัชนีสูงกว่าด้านอื่น และสูงกว่าด้านที่ต่ำที่สุด คือด้านการศึกษาถึงเกือบ 15 เท่า

ขณะที่ความสัมพันธ์ของความก้าวหน้าของคนกับเทคโนโลยีที่สะท้อนจากดัชนีความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของ IMD กลับไม่พบความสัมพันธ์ที่ชัดเจนนัก ทั้งที่ปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาคนในหลายด้าน ทั้งการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงานจากการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิต และการให้บริการ 

โดยธนาคารโลกระบุว่า เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยสูงเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคอาเซียน ขณะที่ข้อมูลจาก Surfshark พบว่า คุณภาพชีวิตด้านดิจิทัลของไทย อยู่อันดับที่ 51 ของโลกในปี 2566 และเป็นอันดับ 2 ของอาเซียนเช่นกัน นอกจากนี้ เทคโนโลยีดิจิทัลยังมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาในด้านอื่น ทั้งการขยายโอกาสทางการศึกษา การเข้าถึงข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ รวมทั้งการยกระดับการให้บริการ และคุณภาพในด้านสาธารณสุข 

อย่างไรก็ตามการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการพัฒนา จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ได้มากขึ้น หรือสร้างการเข้าถึงและพัฒนาทักษะของประชาชนให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้