สภาพัฒน์ แนะพาณิชย์-สคบ. คุมห้ามใช้บอทกดบัตรคอนเสิร์ต เอาเปรียบผู้บริโภค

07 ธ.ค. 2568 | 12:09 น.

สภาพัฒน์ แนะพาณิชย์-สคบ. การเอาเปรียบผู้บริโภคในบริการธุรกิจอีเวนต์และคอนเสิร์ต หลังพบการร้องเรียนการใช้บอทซื้อบัตรคอนเสิร์ตจำนวนมาก ก่อนนำมาขายต่อในราคาที่สูงเกินจริง

KEY

POINTS

  • สภาพัฒน์พบปัญหาการใช้บอทซื้อบัตรคอนเสิร์ตเพื่อนำไปขายต่อในราคาที่สูงเกินจริง ซึ่งเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคและสร้างความเสียหายกว่า 32.9 ล้านบาท
  • เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการค้าภายใน และ สคบ. ออกมาตรการหรือข้อบังคับเพื่อกำกับดูแลและห้ามการใช้บอทในการกดซื้อบัตรคอนเสิร์ต
  • แนะให้ศึกษาแนวทางการออกกฎหมายจากต่างประเทศ เช่น เกาหลีใต้ ที่มีบทลงโทษผู้ใช้โปรแกรมอัตโนมัติซื้อบัตรเพื่อขายต่ออย่างชัดเจน

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยภายรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสที่ 3 ปี 2568 ว่า ในช่วงที่ผ่านมา พบปัญหาการเอาเปรียบผู้บริโภคในบริการธุรกิจอีเวนต์และคอนเสิร์ตหลายกรณี เช่น การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่แจ้งล่วงหน้า การบังคับให้ซื้อสมาชิกพิเศษเพื่อกดบัตรล่วงหน้าแต่ระบบไม่พร้อมรองรับ การยกเลิกกิจกรรมโดยไม่คืนเงินหรือคืนล่าช้า รวมไปถึง การใช้บอทซื้อบัตรคอนเสิร์ต จำนวนมากเพื่อนำมาขายต่อในราคาที่สูงเกินควร 

ทั้งนี้จากข้อมูลของสภาองค์กรของผู้บริโภค พบว่า ในช่วงปี 2564 - 2568 มีการร้องเรียนเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวสูงถึง 9,053 เรื่อง และมีมูลค่าความเสียหายรวมสูงถึง 32.9 ล้านบาท 

โดยสศช. เสนอว่า ในการคุมครองผู้บริโภคเกี่ยวกับธุรกิจอีเวนต์ – คอนเสิร์ต นั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมการค้าภายใน และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ควรมีมาตรการหรือข้อบังคับในการกำกับดูแลธุรกิจดังกล่าว ตั้งแต่การกำหนดเงื่อนไขการให้บริการเงื่อนไขในการขาย/ขายต่อ (resale) คืนเงิน 

นอกจากนี้ อาจศึกษาการออกกฎระเบียบการห้ามใช้บอทในการกดบัตรคอนเสิร์ต ที่เป็นสาเหตุหลักของปัญหา ดังเช่นประเทศเกาหลีใต้ ที่มีการแก้ไขพระราชบัญญัติการแสดงสาธารณะ (Public Performance Act 2023) โดยห้ามไม่ให้มีการใช้โปรแกรมอัตโนมัติเพื่อซื้อบัตรไปขายต่อเพื่อลดปัญหาการขายบัตรคอนเสิร์ตเกินราคา ทั้งนี้ ผู้ที่กระทำผิดจะถูกลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับสูงสุด 10 ล้านวอน

ขณะเดียวกันยังแจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับการกำกับดูแลการขายสินค้าผ่านไลฟ์ (Live) โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องมีการติดตามและตรวจสอบการไลฟ์ขายสินค้าของผู้ค้าและอินฟลูเอนเซอร์ให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องขออนุญาตก่อนโฆษณา อาทิ ยา อาหารเสริม รวมถึงอาจมีการศึกษาแนวทางการกำกับดูแลผู้ค้าและอินฟลูเอนเซอร์เพื่อกำหนดเป็นมาตรการอย่างชัดเจน 

ดังเช่นกรณีประเทศจีนที่มีการออกกฎหมายบังคับให้ผู้ไลฟ์และอินฟลูเอนเซอร์ต้องมีใบรับรอง นอกจากนี้ ต้องหารือกับแฟลตฟอร์มออนไลน์ให้เพิ่มช่องทางการร้องเรียนและนำสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานออกจากระบบ

ทั้งนี้ ผู้ไลฟ์สามารถศึกษาแนวทางที่ถูกต้องได้จากคู่มือขายหรือโฆษณาสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ได้ด้วย