'อนุทิน' ตอบกลับ 'อันวาร์' เงื่อนไขหยุดยิง 4 ทุ่ม เป็นไปไม่ไ้ด้

13 ธ.ค. 2568 | 11:50 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ธ.ค. 2568 | 12:02 น.

นายกฯ อนุทิน ยืนยันการดำเนินการทางทหารเป็นไปตามแผน ปฏิเสธการเจรจาผ่านโซเชียล ย้ำชัด ไทยถูกรุกราน หากกัมพูชาต้องการหยุดยิง ต้องเสนอข้อตกลงตรงมายังประเทศ ไม่ใช่ให้ผู้นำอื่นพูดแทน พร้อมต้องหยุดความพร้อมในการยิงทั้งหมด

KEY

POINTS

  • อนุทินปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงเวลา 22.00 น. ที่มีกระแสข่าวมาจากนายกฯ มาเลเซีย โดยชี้ว่าเป็นไปไม่ได้เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายถูกคุกคามอธิปไตย
  • ยืนยันว่าการเจรจาหยุดยิงต้องมาจากกัมพูชาที่ยื่นข้อเสนอต่อไทยโดยตรง ไม่ใช่ผ่านผู้นำประเทศอื่นหรือใช้โซเชียลมีเดีย
  • เงื่อนไขการหยุดยิงที่แท้จริงคือต้องถอนความพร้อมรบและกำลังพลทั้งหมด ไม่ใช่แค่หยุดยิงชั่วคราวในขณะที่ยังคงเล็งอาวุธใส่ไทย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ตอบโต้กรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน กดดันให้มีการหยุดยิงระหว่างไทยกับกัมพูชาในเวลา 22.00 น. วันนี้

โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า การเจรจาระดับประเทศไม่ควรใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย และปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงที่ไม่เป็นทางการ โดยชี้ว่าฝ่ายไทยเป็นฝ่ายถูกคุกคามอธิปไตย

ปฏิเสธการพูดคุยนอกรอบ ยืนยันแผนการทางทหารดำเนินต่อ

นายอนุทิน ยืนยันว่า ตนไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการหยุดยิงในลักษณะ Background services และขอให้ประชาชนรับฟังข้อมูลข่าวสารจากทางกองทัพที่จัดแถลงข่าววันละสองครั้ง โดยกล่าวว่า แหล่งข่าวจากที่อื่นไม่ควรนำมาเป็นข้ออ้างอิงใด ๆ

แม้จะยอมรับว่ามีการพูดคุยกับบุคคลผู้มีบทบาทในเรื่องนี้มาตลอดในช่วงที่มีปัญหา แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่บุคคลดังกล่าวแจ้งว่าจะต้องมีการทำข้อตกลงในการหยุดการดำเนินการใด ๆ

นายกรัฐมนตรี ระบุเพิ่มเติมว่า ตนอยู่กับทางท่านเสนาธิการทหารบกตลอดทั้งบ่ายในวันนี้ และยืนยันว่าการดำเนินการทางทหารเป็นไปตามแผนการที่ได้วางไว้

ย้ำไทยถูกคุกคามอธิปไตย ต้องมีท่าทีจริงใจในการหยุดยิง

นายอนุทินกล่าวอย่างชัดเจนว่า การตอบรับใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการหยุดยิง จะต้องมีการหารือ มีการพูดคุย และต้องมีท่าทีที่จริงใจ ชัดเจนว่าต้องการจะหยุดการปะทะ และหยุดการทำร้ายซึ่งกันและกันอย่างแท้จริง

นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ฝ่ายไทยเป็นฝ่ายที่ถูกรุกราน คุกคามอธิปไตยและการตอบโต้ของไทยนั้นมีขึ้นเพื่อป้องปรามอธิปไตย รวมถึงการป้องกันพี่น้องประชาชน 

"การที่อยู่ดี ๆ จะมีใครมาบอกให้ต่างคนต่างถอยและหยุดยิงกันในเวลา 22.00 น. ในขณะที่ฝ่ายไทยกำลังแสดงท่าทีว่าปกป้องอธิปไตยอยู่ ถือเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หากคิดด้วยสามัญสำนึกที่ปกติ"

ชี้กัมพูชาต้องยื่นข้อเสนอโดยตรง ไม่ใช่ผ่านผู้นำประเทศอื่น

นายอนุทิน ชี้ให้เห็นถึงความไม่ถูกต้องในการดำเนินการเจรจา โดยกล่าวว่า หากจะมีการหยุดยิงจริง ๆ กัมพูชาต้องเสนอข้อตกลงหรือยื่น "proposal" (ข้อเสนอ) การดำเนินการมายังประเทศไทยโดยตรง ไม่ใช่ไปให้ผู้นำประเทศอื่นมาพูด

นายกรัฐมนตรียกตัวอย่างว่า การหยุดยิงที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ไม่ได้ผล และเป้าหมายการยิงในครั้งนี้ไม่ได้เป็นทางทหาร แต่กลับมาโดนพี่น้องประชาชนและชุมชนของไทย ทำให้เกิดความเสียหาย ดังนั้น การพูดอะไรก็พูดได้ แต่ต้องไม่กระทำในสิ่งที่ขัดแย้งกับคำพูด

เงื่อนไขการหยุดยิงที่ถูกต้อง: ถอนความพร้อมทั้งหมด

นายอนุทินเน้นย้ำถึงสิ่งที่ต้องปฏิบัติหากต้องการหยุดยิงอย่างแท้จริงว่า หากหยุดยิง ก็ต้องหยุดยิงให้เห็นและต้อง ถอนความพร้อมในเรื่องการยิงด้วย การที่หยุดยิงอยู่แค่ชั่วคราว แต่ปืนยังเล็งมาในประเทศไทย พร้อมที่จะยิงอยู่ตลอดเวลา ก็ถือว่าไม่สามารถยอมรับได้

“ถ้าหยุดยิงก็ต้องหยุด หยุดทั้งหมด หยุดความพร้อมทุกอย่าง แล้วก็ถอยกลับไป” นายอนุทินกล่าว

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ประเทศไทยจะเป็นคนประเมินว่า หากสถานการณ์เป็นแบบนี้ ไทยจึงจะบอกว่าโอเค เริ่มคุยกันได้ ซึ่งนี่ถึงจะเป็นวิธีที่ถูกต้อง

นอกจากนี้ นายอนุทินยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการนำเรื่องระดับประเทศไปพูดคุยกันผ่าน Facebook หรือโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นการนำข้อมูลที่เปิดพอดีหมุนไปเจอ แล้วนำมาตัดสินใจหยุดยิง

ห่วงประชาชนถูกใช้เป็นตัวประกัน

เมื่อถูกถามถึงสิทธิของคนไทยที่ต้องการเดินทางกลับบ้าน นายอนุทินกล่าวว่า คนไทยย่อมมีสิทธิ์ที่จะกลับบ้าน และสามารถเดินทางเข้าบ้านตัวเองได้ตลอดเวลา

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความหวังว่า สถานการณ์จะไม่ถึงจุดที่ต้องเอาประชาชนมาเป็นตัวประกัน เนื่องจากประชาชนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้มีการจัดเตรียมแผนเผชิญเหตุไว้สำหรับทุกกรณีแล้ว