ครม.ถกแจกเงินร้านค้า ‘คนละครึ่งพลัส’ 2,000 บาท พ่วงปรับแผนการคลัง

17 พ.ย. 2568 | 23:00 น.

วาระครม.วันนี้ เตรียมพิจารณาโครงการ Upskill - Reskill ก่อนแจกเงินร้านค้าขนาดเล็ก 2,000 บาท ผ่าน ‘คนละครึ่งพลัส’ เฟส 1.5 พร้อมชงปรับปรุงแผนการคลังระยะปานกลาง

KEY

POINTS

  • เปิดวาระครม. เตรียมพิจารณาโครงการ "คนละครึ่งพลัส" 1.5 ช่วยเหลือร้านค้าที่ผ่านการอบรมทักษะ (Upskill/Reskill)
  • ร้านค้าที่เข้าร่วมจะได้รับเงินสนับสนุน 20% ของยอดขายจากโครงการ สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทต่อร้าน โดยตั้งเป้าไว้ 4 แสนราย
  • กระทรวงการคลังจะเสนอให้ปรับปรุงแผนการคลังระยะปานกลาง เพื่อลดการขาดดุลงบประมาณลงให้ไม่เกิน 3% ของ GDP ภายในปี 2572

วันนี้ (18 พฤศจิกายน 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 10.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยคาดว่าในการประชุมครม.วันนี้จะมีวาระที่น่าสนใจเสนอเข้ามาทั้งโครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส หรือ โครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 1.5 

โดยรัฐบาลเตรียมจะเติมเงินให้กับร้านค้าขนาดเล็กที่ผ่านการ Upskill หรือ Reskill จะได้รับเงินสนับสนุน จากภาครัฐ 20% ของยอดขายที่เกิดจากโครงการคนละครึ่งพลัส สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทต่อร้านค้า รวมทั้งสิ้น 4 แสนราย ซึ่งจะเริ่มต้นดำเนินโครงการตั้งแต่ 19 พฤศจิกายน ถึง 19 ธันวาคม 2568 

ก่อนกรมบัญชีกลาง จะโอนเงินสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท ให้แก่ร้านค้าผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่ผูกกับแอปพลิเคชันถุงเงิน ในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 โดยการดำเนินโครงการครั้งนี้จะใช้งบไม่เกิน 800 ล้านบาท

ทั้งนี้ภายหลังการประชุมครม. ในเวลา 11.30 น. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเป็นประธานในกิจกรรมประชาสัมพันธ์โครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส  บริเวณโถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ต่อไป

ขณะเดียวกันกระทรวงการคลัง ยังเตรียมเสนอ การปรับปรุงแผนการคลังระยะปานกลาง (MTFF) รองรับนโยบาย Quick Big Win ตั้งเป้าหมายปรับลดการขาดดุลการคลังสู่ระดับมาตรฐาน โดยกำหนดให้ขาดดุลงบประมาณไม่เกิน 3% ของ GDP ภายในปีงบประมาณ 2572 จากปัจจุบันในปีงบประมาณ 2569 คาดว่าจะขาดดุลที่ 4.4% พร้อมทั้งยังคงกำหนดสัดส่วนหนี้สาธารณะไม่เกิน 70% ต่อ GDP

ขณะเดียวกันภายใต้แผนการคลังระยะปานกลาง ยังกำหนดรายละเอียดสถานะและประมาณการเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย ประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิ ประมาณการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ และยอดหนี้สาธารณะคงค้างด้วย

ส่วนวาระครม. อื่น ๆ ที่เสนอเข้ามาเพื่อพิจารณา มีดังนี้ 

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เสนอการกำหนดเขตเศรษฐกิจพิเศษอื่นให้เป็นพื้นที่จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศและกำหนดหลักเกณฑ์ รูปแบบ วิธีการและเงื่อนไขในการดำเนินการจัดการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ 

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เสนอขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติครม.เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2556 เรื่องการดำเนินโครงการใด ๆ ของหน่วยงานรัฐที่มีความจำเป็นจะต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า และขอทบทวนมติครม.เกี่ยวกับการกำหนดโครงการต่างๆ ของหน่วยงานรัฐที่มีความจำเป็นจะต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เสนอร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือภายใต้โครงการทุนการศึกษา Stipendium Hungaricum ปี ค.ศ. 2026-2028 ระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กับกระทรวงการต่างประเทศและการค้าฮังการี

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอขออนุมัติก่อนหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2569-2573 เพื่อเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ

สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เสนอการทบทวนแนวทางการประเมินผู้บริหารของหน่วยงานรัฐ

คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ (กอช.) เสนอการกำหนดให้แมวไทยเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติประเภทสัตว์เลี้ยง