กสทช. เตรียมเสนอ ครม.เห็นชอบ “เน็ตคนละครึ่ง” เดือนละ 160 บาท

15 พ.ย. 2568 | 04:58 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ย. 2568 | 05:05 น.

กสทช. เตรียมเสนอ “เน็ตคนละครึ่ง” เดือนละ 160 บาท หนุนผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 14 ล้านคน หวังเข้าถึงอินเทอร์เน็ตประชาชนกลุ่มรายได้น้อย

KEY

POINTS

  • กสทช. เตรียมเสนอโครงการ “เน็ตคนละครึ่ง” ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา เพื่อช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
  • ผู้เข้าร่วมโครงการจะจ่ายค่าบริการเดือนละ 160 บาท เพื่อรับสิทธิ์ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 40 GB ต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน
  • คาดว่าจะเปิดให้ผู้มีสิทธิลงทะเบียนได้ภายในปี 2568 หลังจากที่โครงการได้รับการอนุมัติจาก คร

วันนี้ (15 พ.ย.68) นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เตรียมเสนอโครงการ “เน็ตคนละครึ่ง” เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อช่วยเหลือและส่งเสริมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประชาชนกลุ่มรายได้น้อย 

โดยเฉพาะผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กว่า 14 ล้านคนทั่วประเทศ ในอัตราค่าบริการ: จ่ายเพียง 160 บาทต่อเดือน (รวมภาษีแล้ว)

สิทธิที่ได้รับ: อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 40 GB ต่อเดือน ระยะเวลาใช้งาน: ต่อเนื่อง 3 รอบบิล (3 เดือน) ใช้งบประมาณสนับสนุนจากกองทุน กทปส. (กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ)
 

นางสาวอัยรินทร์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ กสทช. อยู่ระหว่างเสนอร่างโครงการเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ความเห็นชอบ โดยคาดว่าเมื่อผ่านการอนุมัติแล้ว จะเปิดให้ประชาชนที่มีสิทธิลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้ภายในปี 2568 

ทั้งนี้  กสทช. จะหารือร่วมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกราย เพื่อจัดทำแพ็คเกจพิเศษภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด โดยยืนยันว่าจะควบคุมคุณภาพความเร็วอินเทอร์เน็ตให้ใช้งานได้จริง ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
 

"โครงการนี้ออกแบบมาเพื่อลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล ให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงโลกออนไลน์ได้อย่างเท่าเทียม ทั้งในด้านการศึกษา การประกอบอาชีพ และการใช้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของประเทศไทยในการขับเคลื่อนสังคมสู่ยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน" นางสาวอัยรินทร์ กล่าว

กสทช. เตรียมเสนอ ครม.เห็นชอบ “เน็ตคนละครึ่ง” เดือนละ 160 บาท

อย่างไรก็ดียังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัล และสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงเทคโนโลยีของประชาชนในพื้นที่ห่างไกล