ขุดลึกธุรกิจ ‘ลูกก๊อกอัน’ 3 คน ดึงเครือข่ายตั้งบริษัทในไทยเพียบ

กรณี กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ประกาศถอนสัญชาติ “ก๊อกอัน” นักธุรกิจใหญ่กัมพูชา พร้อมลูก 3 คน หลังได้รับข้อมูลเชิงลับจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และหน่วยงานความมั่นคงหลายแห่งว่ามีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายกาสิโน การค้ามนุษย์ การฟอกเงิน และขบวนการสแกมเมอร์ข้ามชาติ ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายไทย

พร้อมกันนี้ยังตรวจสอบพบว่า บุตรของ นายก๊อกอัน จำนวน 3 คน คือ น.ส.จุรี คล่องกิจกล น.ส.ภูเฌอหลิน คล่องกิจกล (ยุไล่) และ นายกิตติศักดิ์ คล่องกิจกล ทั้งหมดได้สัญชาติไทย โดยอาศัยข้อมูลเท็จและการแจ้งการเกิดโดยทุจริต โดยแอบอ้างบุคคลสัญชาติไทยที่ไม่ใช่บิดามารดาที่แท้จริงในการแจ้งเกิดเกินกำหนดที่ สำนักทะเบียนอำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด

กรมการปกครอง จึงมีคำสั่งยกเลิกสูติบัตรของบุคคลทั้งสามราย และให้ถือว่า ไม่เคยมีสัญชาติไทยตั้งแต่ต้น พร้อมแจ้งสำนักงานเขตประเวศดำเนินการจำหน่ายชื่อออกจากทะเบียนบ้านเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ปัจจุบันบุคคลทั้ง 3 คนมีสถานะเป็น “คนต่างด้าวที่ไม่มีสิทธิอยู่ในประเทศไทย” และจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายในข้อหาการแจ้งการเกิดโดยทุจริต

ล่าสุด ฐานเศรษฐกิจ ยังได้ตรวจสอบข้อมูลด้านการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยของบุตรนายก๊อกอัน ทั้ง 3 คน พบว่า มีชื่อเป็นผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นในบริษัทในไทยหลายแห่ง ทำธุรกิจทั้ง ธุรกิจการจัดหางาน ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจขายยานยนต์ สรุปได้ดังนี้

นางสาวจุรี คล่องกิจกล

นางสาวจุรี คล่องกิจกล มีชื่อเป็นผู้บริหารบริษัทอย่างน้อย 2 แห่ง คือ 

1. บริษัท ซีซี ดีเวลอปเมนท์ ทีเอช จำกัด ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับกิจกรรมของสำนักงานจัดหางานหรือตัวแทนจัดหางาน ข้อมูลงบการเงินนำส่งล่าสุดปี 2567 มีสินทรัพย์รวม 874,567 บาท หนี้สินรวม 34,205 บาท รายได้รวม 4,318,339 บาท รายจ่ายรวม 4,232,066 บาท ผลประกอบการมีกำไรสุทธิ 86,272 บาท

2. บริษัท เบรดครัมบ์ จำกัด ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการบริการด้านอาหารในภัตตาคาร/ร้านอาหาร ข้อมูลงบการเงินนำส่งล่าสุดปี 2567 มีสินทรัพย์รวม 2,054,717 บาท หนี้สินรวม 13,320 บาท รายได้รวม 37,900 บาท รายจ่ายรวม 28,922 บาท ผลประกอบการมีกำไรสุทธิ 8,977 บาท

พร้อมกันนี้ยังพบว่า นางสาวจุรี มีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ซีซี ดีเวลอปเมนท์ ทีเอช จำกัด สูงสุดเป็นอันดับที่ 1 จำนวน 35,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 70% ส่วนผู้ถือหุ้นอีกคนคือ ยูเชียง เจีย สัญชาติกัมพูชา ถือหุ้น จำนวน 15,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 30% 

ส่วนอีก บริษัท เบรดครัมบ์ จำกัด พบว่า นางสาวจุรี มีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 เช่นกัน จำนวน 35,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน  70% รองลงมาคือ อลัน คายหลุน วู สัญชาติสหรัฐอเมริกา ถือหุ้นอันดับที่ 2 จำนวน 9,600 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 48% และมีชื่อนางสาวภูเฌอหลิน คล่องกิจกล บุตรอีกคนของนายก๊อกอัน ถือหุ้นอันดับที่ 3 จำนวน 200 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1%

นางสาวภูเฌอหลิน คล่องกิจกล

นางสาวภูเฌอหลิน คล่องกิจกล มีชื่อเป็นผู้บริหารบริษัทอย่างน้อย 2 แห่ง คือ 

1. บริษัท ไดมอนด์ ทรี จำกัด ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองที่ไม่ใช่ เพื่อเป็นที่พักอาศัย ข้อมูลงบการเงินนำส่งล่าสุดปี 2567 มีสินทรัพย์รวม 102,535,145 บาท หนี้สินรวม 102,833,611 บาท รายได้รวม 1,655,129 บาท รายจ่ายรวม 1,094,125 บาท ผลประกอบการมีกำไรสุทธิ 561,003 บาท

2. บริษัท ไอคิวพีเอส เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับค้าส่ง นำเข้า-ส่งออก ตัวแทนนายหน้า ผู้จัดจำหน่าย น้ำดื่ม น้ำแร่ น้ำผลไม้ เบียร์ สุรา เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สถานะล่าสุดได้เสร็จการชำระบัญชี ส่วนข้อมูลงบการเงินนำส่งล่าสุดปี 2561 มีสินทรัพย์รวม 1,493,240 บาท หนี้สินรวม 38,000 บาท รายได้รวมไม่มี รายจ่ายรวม 44,760 บาท ผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 44,760 บาท

ทั้งนี้ นางสาวภูเฌอหลิน ยังมีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไดมอนด์ ทรี จำกัด โดยถือหุ้นเป็นอันดับที่ 1 จำนวน 3,000 คน สัดส่วน 60% รองลงมามีชื่อของ พริศฐีณ ฤทธี และเบนจามิน ฤทธี ซึ่งถือสัญชาติไทย ถือหุ้นเท่ากันจำนวน 1,000 คน สัดส่วน 20% อีกทั้งยังถือหุ้นบริษัท เบรดครัมบ์ จำกัด โดยถือหุ้นอันดับที่ 3 จำนวน 200 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1% 

รวมทั้งบริษัท ฟุลเลอร์ตัน วัลเลย์ จำกัด ประกอบธุรกิจให้คำปรึกษาด้านธุรกิจการตลาดและการโฆษณา แต่ปัจจุบันแจ้งเลิกกิจการแล้ว โดยถือหุ้นใหญ่เป็นอันดับที่ 1

นายกิตติศักดิ์ คล่องกิจกล

นายกิตติศักดิ์ คล่องกิจกล มีชื่อเป็นผู้บริหารบริษัทอย่างน้อย 1 แห่ง คือ บริษัท ไห่ ทั่ว นิว เอ็นเนอร์จี วีฮิเคิล จำกัด ประกอบธุรกิจการขายยานยนต์ใหม่ชนิดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะ รถตู้ และรถขนาดเล็กที่คล้ายกัน โดยนายกิตติศักดิ์ มีชื่อเป็นกรรมการร่วมกับ นายซู หลงเฟ่ย สัญชาติจีน โดยข้อมูลงบการเงินนำส่งล่าสุดปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 10,930,910 บาท หนี้สินรวม 6,276,477 บาท รายได้รวม 14 บาท รายจ่ายรวม 345,581 บาท ผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 345,566 บาท

อย่างไรก็ตาม นายกิตติศักดิ์ ยังมีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไห่ ทั่ว นิว เอ็นเนอร์จี วีฮิเคิล จำกัด โดยถือหุ้นใหญ่เป็นอันดับที่ 1 จำนวน 1,020,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 51%  รองลงมาคือ นายซู หลงเฟ่ย ถือหุ้นเป็นอันดับที่ 2 จำนวน 980,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 49% 

ส่วนอีกบริษัท คือ บริษัท ซีโอเจ ออโตโมทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบกิจการค้าอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์และประดับยนต์ทุกประเภท โดยถือหุ้นใหญ่เป็นอันดับที่ 1 จำนวน 10,200 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 51% แต่ปัจจุบันมีสถานภาพเลิกกิจการแล้ว