กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ออกแถลงการณ์รายงานผลการดำเนินการทางทะเบียนกรณี นายก๊อกอัน (KOK AN) บุคคลสัญชาติกัมพูชา ซึ่งเป็นนักธุรกิจรายใหญ่และมีตำแหน่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาของประเทศกัมพูชา ภายหลังได้รับข้อมูลเชิงลับจากหน่วยงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และหน่วยงานความมั่นคงหลายแห่ง พบว่า นายก๊อกอันมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายกาสิโน การค้ามนุษย์ การฟอกเงิน และขบวนการสแกมเมอร์ข้ามชาติ ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายไทย
กรมการปกครองตรวจสอบพบว่า นายก๊อกอันได้รับ ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย โดยถูกต้องตามขั้นตอนจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แต่ต่อมาได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด ส่งผลให้ใบถิ่นที่อยู่นั้นสิ้นสภาพไม่สามารถใช้ได้อีก
ด้วยเหตุนี้ สำนักทะเบียนกลางได้ประสาน สำนักงานเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการ จำหน่ายชื่อของนายก๊อกอันออกจากทะเบียนบ้าน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 หลังจากนั้น นายก๊อกอันจะถือว่าเป็น “คนต่างด้าวที่ไม่มีสิทธิอาศัยอยู่ในประเทศไทย”
นอกจากนี้ ยังตรวจพบว่า บุตรของ นายก๊อกอัน จำนวน 3 คน ได้แก่
น.ส.จุรี คล่องกิจกล
น.ส.ภูเฌอหลิน คล่องกิจกล (ยุไล่)
นายกิตติศักดิ์ คล่องกิจกล
ทั้งหมดได้สัญชาติไทยโดย อาศัยข้อมูลเท็จและการแจ้งการเกิดโดยทุจริต โดยแอบอ้างบุคคลสัญชาติไทยที่ไม่ใช่บิดามารดาที่แท้จริงในการแจ้งเกิดเกินกำหนดที่ สำนักทะเบียนอำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด
กรมการปกครองจึงมีคำสั่ง ยกเลิกสูติบัตรของบุคคลทั้งสามราย และให้ถือว่า ไม่เคยมีสัญชาติไทยตั้งแต่ต้น พร้อมแจ้งสำนักงานเขตประเวศดำเนินการจำหน่ายชื่อออกจากทะเบียนบ้านเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ปัจจุบันบุคคลทั้ง 3 คนมีสถานะเป็น “คนต่างด้าวที่ไม่มีสิทธิอยู่ในประเทศไทย” และจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายในข้อหาการแจ้งการเกิดโดยทุจริต
กรมการปกครองย้ำว่า การได้สัญชาติไทยหรือใบสำคัญถิ่นที่อยู่เป็นสิทธิ์สำคัญของพลเมือง หากมีบุคคลต่างด้าวแฝงตัวเข้ามาประกอบธุรกิจในไทยโดยมิชอบและได้รับสิทธิดังกล่าว จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมไทยโดยรวม
ภายใต้นโยบายของรัฐบาล กรมการปกครองมุ่งดำเนินการปราบปราม กลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติทุกรูปแบบ อย่างเข้มงวด และจะใช้มาตรการ ถอนสัญชาติไทย กับผู้ที่แปลงสัญชาติหรือได้สัญชาติภายหลังการเกิด หากพบว่ามีพฤติกรรมที่เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายร้ายแรง
“บุคคลที่ได้สัญชาติไทยโดยทุจริต หรือใช้สิทธิความเป็นพลเมืองไทยเพื่อกระทำความผิด ถือว่าเป็นผู้ทำร้ายคนไทย ไม่ควรมีสัญชาติไทยต่อไป” แถลงการณ์กรมการปกครองระบุ