คลังปรับ GDP พุ่ง 2.4% รับส่งออกร้อนแรง-มาตรการรัฐอัดฉีดปลายปี

30 ต.ค. 2568 | 06:26 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ต.ค. 2568 | 06:32 น.

คลังปรับเพิ่ม GDP ปี 68 จาก 2.2% โตพุ่ง 2.4% รับแรงส่งออกพุ่ง 10% พร้อมเตือนปี 69 เศรษฐกิจชะลอเหลือ 2% เหตุฐานสูงจากการเร่งหนีภาษีสหรัฐฯ ชี้หนี้ครัวเรือน-การเมืองโลกยังเป็นความเสี่ยงหลัก

KEY

POINTS

  • สศค.ปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปี 2568 จากเดิม 2.2% เป็น 2.4% จากการส่งออกที่ขยายตัวดีกว่าคาด และมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
  • คาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะหดตัวที่ -0.2% เนื่องจากราคาพลังงาน ลดลง ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัด คาดว่าจะเกินดุลสูงถึง 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (3.5% ของ GDP)
  • ปี 2569 คาดว่า GDP จะขยายตัวเพียง 2.0% จากการส่งออกที่อาจหดตัวถึง -1.5% เนื่องจากผู้ประกอบการได้เร่งส่งออกสินค้าไปมาก เพื่อลดความเสี่ยงจากการขึ้นภาษีสหรัฐฯ

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ออกมาแถลงการณ์ล่าสุดถึงทิศทางเศรษฐกิจไทยที่น่าพอใจในช่วงปลายปี 2568 โดยได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 2.4% จากเดิมที่ 2.2% 

เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วงปลายปีนี้ รวมถึงการส่งออกในที่สามารถขยายตัวได้ดีกว่าคาด โดยเชื่อว่าปีนี้น่าจะขยายตัวได้สูงถึง 10%

ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนเติบโตดี แต่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปีนี้จะหดตัวอยู่ที่ -0.2% ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุลราว 15.5 พันล้านดอลลาร์

ส่วนในปี 69 สศค.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 2.0% ชะลอตัวลงจากปีนี้ เนื่องจากผลของการส่งออกที่อาจหดตัว -1.5% หลังได้เร่งส่งออกไปมากแล้วในช่วงก่อนหน้านี้เพื่อลดความเสี่ยงจากการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไป คาดว่าจะกลับมาขยายตัวที่ 0.5%

นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการ สศค. ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ระบุว่า การส่งออกสินค้าเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการปรับประมาณการครั้งนี้ โดยคาดว่าการส่งออกในภาพรวมของปี 2568 จะขยายตัวได้สูงถึง 10%

นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการ สศค.

โดยเฉพาะในสินค้ากลุ่มหลักที่ทำผลงานได้ดีในตลาดสหรัฐฯ และจีน เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รวมถึงผลิตภัณฑ์ยาง

นอกจากนี้ การบริโภคภาคเอกชนยังคงเติบโตที่ 3.0% และการลงทุนภาครัฐคาดว่าจะขยายตัวได้ถึง 5.6% ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ

อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ดี แต่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้จะ หดตัวอยู่ที่ -0.2% เป็นผลมาจากการลดลงของราคาพลังงานทั้งค่ากระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิง ตามนโยบายของภาครัฐและราคาพลังงานในตลาดโลก

คลังปรับ GDP พุ่ง 2.4% รับส่งออกร้อนแรง-มาตรการรัฐอัดฉีดปลายปี

สำหรับปี 2569 สศค. ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยจะเผชิญกับภาวะชะลอตัว โดยคาดว่าจะขยายตัวลดลงเหลือ 2.0% สาเหตุหลักมาจากการส่งออกที่อาจ หดตัว -1.5% เนื่องจากมีการเร่งส่งออกสินค้าไปเป็นจำนวนมากแล้วในช่วงปี 2568 เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ในอนาคต

แม้การส่งออกจะแผ่วลง แต่เศรษฐกิจปีหน้ายังมีปัจจัยหนุนจากภาคบริการ โดยเฉพาะ การท่องเที่ยว ที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 35.5 ล้านคน และ การบริโภคภาคเอกชน ที่ยังคงขยายตัวได้ที่ 2.4%

คลังปรับ GDP พุ่ง 2.4% รับส่งออกร้อนแรง-มาตรการรัฐอัดฉีดปลายปี

โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวทิ้งท้ายว่า ท่ามกลางภาพรวมที่เป็นบวก รัฐบาลยังคงต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด ได้แก่:

  • นโยบายด้านภาษีของสหรัฐฯ ที่จะกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและการแข่งขัน
  • ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ และความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์
  • ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่ยังเป็นความเสี่ยงหลักของเศรษฐกิจโลก
  • ระดับหนี้ครัวเรือนและ SMEs ที่ยังคงเป็นภาระต่อการใช้จ่ายและการลงทุนในประเทศ