ขยายสิทธิ 'คนละครึ่งพลัส' ร้านนวด-เสริมสวย เข้าร่วมเริ่มใช้ 29 ต.ค. นี้

29 ต.ค. 2568 | 02:41 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ต.ค. 2568 | 02:47 น.

รัฐบาลขยายสิทธิ 'คนละครึ่งพลัส' ใช้ได้กับร้านนวด เสริมสวย และร้านบริการรายย่อยอื่น ๆ ชำระผ่าน G-Wallet ได้สะดวก ตั้งเป้ายกระดับเศรษฐกิจฐานราก หนุนรายได้ธุรกิจชุมชนหมุนเวียนทั่วประเทศ

KEY

POINTS

  • รัฐบาลขยายสิทธิโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ให้ครอบคลุมธุรกิจบริการรายย่อยมากขึ้น
  • เพิ่มประเภทกิจการที่เข้าร่วม เช่น ร้านนวดแผนไทย ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม และร้านบริการในชีวิตประจำวันอื่น ๆ
  • ประชาชนสามารถเริ่มใช้สิทธิกับร้านค้ากลุ่มใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ประชาชนสามารถเริ่มใช้สิทธิในโครงการ 'คนละครึ่งพลัส' ได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น โดยรัฐบาลภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ขยายขอบเขตการใช้สิทธิให้ครอบคลุมถึง ธุรกิจบริการรายย่อย ที่อยู่ในระบบภาษีของรัฐ เพื่อให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กในชุมชนได้รับประโยชน์จากมาตรการอย่างแท้จริง

โดยโครงการคนละครึ่งพลัสครั้งนี้ ไม่ได้จำกัดเฉพาะร้านอาหารหรือร้านค้าเท่านั้น แต่ประชาชนสามารถใช้สิทธิร่วมจ่ายได้กับ ร้านนวดแผนไทย ร้านตัดผม ร้านเสริมสวย ร้านซักรีด ร้านล้างรถ ร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงร้านบริการในชีวิตประจำวันอื่น ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ โดยสามารถชำระเงินผ่านแอป G-Wallet ได้สะดวกและปลอดภัยเช่นเดียวกับร้านค้าทั่วไป

รองโฆษกรัฐบาล ระบุว่า มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางรัฐบาลในการ ยกระดับเศรษฐกิจฐานรากและสร้างรายได้ให้ธุรกิจรายย่อย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจชุมชน การขยายสิทธิให้ร้านบริการเข้าร่วม 

 

นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกรัฐบาล

 

โดยจะช่วยให้ประชาชนใช้สิทธิได้จริงในชีวิตประจำวัน ขณะเดียวกันยังช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กมีรายได้เพิ่มขึ้น เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง