เปิดขั้นตอนใช้สิทธิ 'สุขกาย สบายกระเป๋า ซื้อยานอก รพ.เอกชน ต้องทำอย่างไรบ้าง

27 ต.ค. 2568 | 00:20 น.

เปิดขั้นตอนใช้สิทธิ 'สุขกาย สบายกระเป๋า ประชาชนสามารถขอใบสั่งยา ซื้อยายรพ.เอกชน เริ่มใช้บริการได้ทั่วประเทศ 4 พ.ย. 2568 คาดลดค่าครองชีพ 32,400 ล้านบาท

KEY

POINTS

  • ผู้ป่วยสามารถนำใบสั่งยาจากโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ ไปซื้อยาที่ร้านยาภายนอกเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย
  • ขั้นตอนการใช้สิทธิคือ รับใบสั่งยาจากโรงพยาบาล ค้นหาร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ และนำใบสั่งยาไปยื่นที่ร้านเพื่อซื้อยา
  • สามารถค้นหาร้านยาที่เข้าร่วมได้จากสติกเกอร์สัญลักษณ์หน้าร้าน หรือตรวจสอบรายชื่อผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ อย. และแอปพลิเคชันต่างๆ

โครงการ สุขกาย สบายกระเป๋า หนึ่งในมาตรการสำคัญภายใต้นโยบาย Quick Big Win ของกระทรวงพาณิชย์ เตรียมพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นสักขีพยานในการลงนาม MOU ณ ทำเนียบรัฐบาล 

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อ ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ และค่าครองชีพด้านยาของประชาชน โดยการเปิดทางเลือกให้ผู้ป่วยสามารถ นำใบสั่งยาจากแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชน ไปซื้อยาจากร้านยาภายนอกได้ คาดการณ์ว่าโครงการนี้จะสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านยาของประชาชนลดค่าครองชีพ 32,400 ล้านบาท

ทั้งนี้ โครงการ "สุขกาย สบายกระเป๋า" ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในภาคสมัครใจจากทั้งโรงพยาบาลและร้านยามีโรงพยาบาลเอกชนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ โดยมีเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชน 11 เครือข่ายเข้าร่วม ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีโรงพยาบาลชั้นนำเข้าร่วมแล้วกว่า 100 แห่ง อาทิ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท, โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลพญาไท 2 เป็นต้น

 

นอกจากนี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เปิดให้ร้านยาลงทะเบียนออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2568 โดยยอดร้านยาที่ลงทะเบียนเข้าร่วมล่าสุด (ณ 24 ต.ค. 68) ได้ทะลุเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ โดยมีจำนวนร้านยารวมทั้งสิ้น 3,305 ร้าน ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ

สำหรับการการลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ในวันที่ 4 พ.ย.68 จะดำเนินการระหว่าง กรมการค้าภายใน, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.),สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.), และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เพื่อขับเคลื่อนระบบให้ประชาชนสามารถ ตรวจสอบ เปรียบเทียบราคายา และเลือกซื้อยาได้อย่างโปร่งใสและเป็นธรรม

เงื่อนไขและคุณสมบัติสำคัญของ "ร้านยา สุขกาย สบายกระเป๋า"

ร้านยาที่ต้องการเข้าร่วมโครงการนี้เป็นการดำเนินการโดยสมัครใจ และต้องมีคุณสมบัติหลักเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ป่วย ได้แก่

1. ประเภทของร้านยา ต้องเป็นร้านขายยาแผนปัจจุบัน (ข.ย.1) และต้องไม่อยู่ในระหว่างถูกพักใช้หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาต

2. เภสัชกรประจำ ต้องมีเภสัชกรประจำอยู่ตลอดเวลาที่เปิดทำการ

3. ความพร้อมด้านยา ต้องพร้อมในการจัดหายาให้ครบถ้วนตามใบสั่งยา ภายใน 24 ชั่วโมง หรือตามที่ผู้ป่วยให้ความเห็นชอบ

4. ช่องทางการติดต่อ ต้องมีช่องทางการติดต่อสอบถาม เช่น โทรศัพท์, ID LINE, หรือ โปรแกรมประยุกต์ Telepharmacy เพื่อให้ผู้มารับบริการตรวจสอบรายการ จำนวน และราคายาได้

5. มาตรฐานวิชาชีพ ต้องพร้อมจัดบริการตามมาตรฐานวิชาชีพเภสัชกรรมที่กำหนด

 

เปิดขั้นตอนใช้สิทธิ 'สุขกาย สบายกระเป๋า ซื้อยานอก รพ.เอกชน ต้องทำอย่างไรบ้าง

 

 

 

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ชี้แจงว่า ร้านยาที่เข้าร่วม ไม่จำเป็นต้องเป็นร้านยาคุณภาพ หรือเป็นสมาชิกของสมาคม/ชมรมที่เกี่ยวกับร้านยาใด ๆ

ช่องทางค้นหา "ร้านยา สุขกาย สบายกระเป๋า" 

1. สติกเกอร์สัญลักษณ์ ร้านยาที่เข้าร่วมจะได้รับและนำ สติกเกอร์ “สุขกาย สบายกระเป๋า” ไปติดไว้ที่หน้าร้าน เพื่อให้ผู้บริโภคเห็นได้อย่างชัดเจน

2. ระบบค้นหาออนไลน์ อย. จะพัฒนาระบบการค้นหาและแสดงตำแหน่งร้านยา "สุขกาย สบายกระเป๋า" พร้อมแสดงข้อมูลการติดต่อ เช่น เบอร์โทร หรือ ID LINE

3. ช่องทางการตรวจสอบ ประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อร้านยาแนะนำได้ผ่านเว็บไซต์ของหน่วยงานที่ร่วมมือ ได้แก่ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, และ สำนักงานคณะกรรมการองค์การอาหารและยา (อย.)

4. แพลตฟอร์ม/แอปพลิเคชัน กรมการค้าภายในเตรียมพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ “ร้านยาสุขกาย สบายกระเป๋า” เพื่อให้ประชาชนสามารถค้นหาร้านยาในพื้นที่ใกล้เคียงได้สะดวกและรวดเร็ว

 

เปิดขั้นตอนใช้สิทธิ 'สุขกาย สบายกระเป๋า ซื้อยานอก รพ.เอกชน ต้องทำอย่างไรบ้าง

 

นอกจากนี้ ยังมีผู้ให้บริการจำหน่ายยาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (Applications) เข้าร่วมแล้ว 12 แบรนด์ เช่น Boots, Tops Care, Fascino, GPO รวมถึงแอปพลิเคชันด้านยาอีก 8 แบรนด์ เช่น Telehealth, PharmCare และ All Pharmacy

ขั้นตอนการใช้บริการ (สำหรับผู้ป่วย)

  • ประชาชนรับ ใบสั่งยาจากโรงพยาบาลเอกชน (ที่เข้าร่วมโครงการฯ)
  • ประชาชน ค้นหาข้อมูลร้านยา จากเว็บไซต์ อย. หรือผ่านแอปพลิเคชันที่เตรียมไว้
  • ประชาชนเข้ารับบริการที่ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ โดยสามารถใช้ช่องทางติดต่อ สอบถามเพื่อ ตรวจสอบยืนยันรายการ จำนวน และราคายา ก่อนล่วงหน้าได้