KEY
POINTS
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการส่งชุดปฏิบัติการกระทรวงอุตสาหกรรมลงพื้นที่เข้าตรวจสอบสถานประกอบการที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ บริษัทไฟเบอร์พัฒน์ จำกัด ตั้งอยู่หมู่ที่ 11 ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ประกอบกิจการนำกระดาษที่ใช้แล้วมาผ่านกรรมวิธีทางอุตสาหกรรมเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบ สำหรับโรงงานทำกระดาษ คัดแยกวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นของเสียอันตราย ทำเม็ดพลาสติกและทำแผ่นพลาสติก
ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของการลงพื้นที่ตรวจจับของชุดปฏิบัติการกระทรวง เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วน ทำให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายอย่างรวดเร็ว เด็ดขาด และเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม
“กระทรวงอุตฯได้มีการตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อขับเคลื่อนการบังคับใช้กฎหมายกับการประกอบกิจการอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายแก่ประชาชนและสิ่งแวดล้อมอย่างเด็ดขาดขึ้นมา เพื่อแก้ทุกปัญหาอุตสาหกรรมในทุกพื้นที่หากสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและผู้ประกอบการ เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการแข่งขันและทวงคืนพื้นที่เศรษฐกิจคืนให้กับผู้ประกอบการที่ทำทุกอย่างถูกต้อง”
นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากการตรวจสอบ บริษัทไฟเบอร์พัฒน์ จำกัด มีการดำเนินงานที่ไม่ถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดหลายประการ ประกอบด้วย การประกอบกิจการไม่ตรงตามที่ได้รับอนุญาต
เครื่องจักรในกระบวนการผลิตและระบบบำบัดน้ำเสีย ไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานหรือไม่มีความปลอดภัย พบการกองสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วนอกอาคารโรงงาน การติดตั้งถังดับเพลิงในอาคารโรงงานไม่เป็นไปตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การป้องกันและระงับอัคคีภัยในโรงงาน พ.ศ. 2552
จากการตรวจสอบในระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม พบว่ามีการรับกากของเสียในปี 2568 เข้ามาดำเนินการจัดการปริมาณรวมทั้งสิ้น 846.795 ตัน มาจากหลายโรงงาน
นอกจากนี้ ยังพบการติดตั้งเครื่องจักรที่ไม่อยู่ในรายการบัญชีเครื่องจักรที่ได้รับอนุญาต 11 รายการ รวมกำลังแรงม้าเครื่องจักร 295.5 แรงม้า รวมทั้งพบบรรจุภัณฑ์ไม่ใช้แล้วชนิดพลาสติก โดยผู้นำตรวจ แจ้งว่า มาจากโรงงานที่อยู่ข้างเคียง ส่งมาให้ดำเนินการจัดการ โดยไม่ได้ผ่านการขออนุญาตนำออกนอกบริเวณโรงงาน
อย่างไรก็ดี ชุดปฏิบัติการกระทรวงฯยังได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริษัท ถุงทองโลหะ อินเตอร์ จำกัด ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งประกอบกิจการถอดแยกและบดย่อยชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ บดย่อยเศษคัดแยกวัสดุสายไฟที่ไม่เป็นของเสียอันตราย และหลอมหล่อเศษและตะกรันโลหะ เก็บรวบรวมแบตเตอรี่โดยไม่แปรสภาพ
โดยจากการตรวจสอบ พบสิ่งที่ไม่ได้เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาตตามทะเบียนโรงงาน ไม่ว่าจะเป็น กระบวนการผลิตซิลิคอนผงโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีการตรวจวัดคุณภาพปล่องระบาย พบกองวัตถุและผลิตภัณฑ์นอกอาคารโรงงาน และอยู่ในระหว่างการตรวจวัดดินและน้ำใต้ดิน
ชุดปฏิบัติการกระทรวงฯได้มอบหมายให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ ดำเนินคดีในทุกการกระทำผิดอย่างเด็ดขาด และได้มีคำสั่ง มาตรา 37 วรรค 1 ให้โรงงานปรับปรุงแก้ไขโรงงานหรือระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 โดยทันที
ซึ่งหากทั้ง 2 โรงงานเร่งปรับปรุงแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนดก็สามารถกลับมาเปิดได้ตามปกติ แต่หากยังพบว่ามีการฝ่าฝืน ไม่ยินยอมปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยไม่มีเหตุอันควร จะดำเนินการมาตรา 39 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ ผู้ซึ่งปลัดกระทรวงมอบหมาย สั่งให้หยุดประกอบกิจการโรงงานทั้งหมด หรือบางส่วนเป็นการชั่วคราว และหากยังไม่ปฏิบัติตามอาจจะมีคำสั่งให้ปิดโรงงาน มีผลเป็นการเพิกถอนใบอนุญาต