KEY
POINTS
วันนี้ (21 ตุลาคม 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานการ ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยการประชุมครั้งนี้ มีไฮไลท์ที่ต้องติดตามคือ มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว 4 มาตรการ ครอบคลุมทั้งมาตรการภาษี การใช้จ่ายงบประมาณฝึกอบรม และมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ หรือ ครม.เศรษฐกิจ นัดแรก ที่ได้เห็นชอบไปเรียบร้อยแล้ว
สำหรับ 4 มาตรการมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ประอบด้วย
เป็นมาตรการภาษี สำหรับผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถนำค่าใช้จ่ายที่พักในโรงแรม โฮมสเตย์ไทย หรือสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม และค่าบริการร้านอาหารที่จ่ายให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม มาหักลดหย่อนได้สูงสุด 20,000 บาท
โดยอัตราการลดหย่อนท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรอง 55 จังหวัด และบางอำเภอใน 15 จังหวัด ลดหย่อนได้ 1.5 เท่า ส่วนจังหวัดอื่นลดหย่อนได้ 1 เท่า มีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.- 15 ธ.ค.2568
โดยให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งเบิกค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรม ประชุม สัมมนาในส่วนของการพัฒนาบุคลากรไม่น้อยกว่า 60% ของวงเงินที่ตั้งไว้ เน้นเมืองท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวรองเป็นลำดับแรก และกำหนดให้เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดผลการปฏิบัติราชการ (KPI) ประจำปีงบประมาณ 2569 ของหัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีระยะเวลาดำเนินการเดือน ต.ค. 2568 - ม.ค. 2569
ขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตจาก 10 %เป็น 5 % ออกไปอีก 1 ปี สำหรับกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ ประเภทที่ 17.01 ได้แก่ ไนต์คลับ ดิสโกเธค ผับ บาร์ ค็อกเทลเลาจน์ รวมถึงสถานที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่จัดให้มีการแสดงดนตรีหรือการแสดงอื่นใดเพื่อการบันเทิง ซึ่งปิดทำการหลังเวลา 24.00 น. มาตรการนี้จะส่งผลให้กรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ภาษีลดลง 219.55 ล้านบาทต่อปี มีระยะเวลาดำเนินการวันที่ 1 ม.ค. - 31 ธ.ค. 2569
โดยให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการโรงแรม หักรายจ่ายการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการได้ 2 เท่า แต่ไม่ใช่การซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม) โดยยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินได้เป็นจำนวน 100 % ของรายจ่ายดังกล่าว มีระยะเวลาดำเนินการวันที่ 29 ต.ค. 2568 - 31 มี.ค. 2569
ขณะที่มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 เป็นการกระตุ้นการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อให้มีเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจ และช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี 2568 ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2569 โดยมีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 3,780,600 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.รายจ่ายประจำ จำนวน 2,918,863.71 ล้านบาท 2.รายจ่ายลงทุน จำนวน 861,736.29 ล้านบาท
ทั้งนี้เมื่อรวมเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีของปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 อีกจำนวน 320,996.41 ล้านบาท จะทำให้มีงบประมาณที่หน่วยงานของรัฐจะต้องดำเนินงาน รวมกันเป็นวงเงินทั้งสิ้น 4,101,596.41 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามในช่วงก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นำคณะผู้บริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงาน Maha Loi Krathong World Event ในเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2568 ณ จังหวัดสุโขทัย และพระนครศรีอยุธยา และงาน Vijit Chao Phraya 2025 ในเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2568 ณ บริเวณสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพฯ