รัฐบาลคลอดแนวทางทำ งบประมาณ ปี 70 วงเงิน 3.85 ล้านล้าน

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการจัดทำงบประมาณและปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 โดยปรับเวลาการจัดทำงบประมาณให้เร็วขึ้น โดยเฉพาะขั้นตอนการทบทวนและการวางแผนการจัดทำงบประมาณ ให้เสร็จสิ้นภายในปี 2568 ก่อนที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย จะไปมอบนโยบายให้กับทุกหน่วยงานในช่วงต้นเดือนธันวาคม นี้

สำหรับกรอบวงเงินงบประมาณปี 2570 เบื้องต้น ภายใต้แผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2569-2572) ได้กำหนดรายละเอียดของวงเงินงบประมาณรายจ่ายปี 2570 วงเงิน 3.855 ล้านล้านบาท พร้อมกำหนดการขาดดุลการคลังไว้ที่ 758,600 ล้านบาท ประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิ 3.096 ล้านล้านบาท และประมาณการหนี้สาธารณะคงค้างอยู่ที่ 14.24 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 68.5% ต่อ GDP 

ทั้งนี้ในการประชุมครม.ครั้งล่าสุด สำนักงบประมาณ ได้รายงานแนวทางการจัดทำงบประมาณปี 2570 ว่า มุ่งเน้นดำเนินการตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยดำเนินการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2566-2580) ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566-2570)

นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2566-2570) เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน แผนปฏิบัติราชการของกระทรวง ความจำเป็นและภารกิจของหน่วยรับงบประมาณ รวมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการจัดสรรงบประมาณ

ขณะเดียวกันต้องจัดทำงบประมาณเพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยมุ่งแก้ไขปัญหาเร่งด่วนพร้อมกับสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม คำนึงถึงมิติเพศภาวะ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของทุกเพศอย่างเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน ต่อยอดการพัฒนาของภาคการผลิตและการบริการ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันเพื่อส่งเสริมการวางรากฐานสู่การพัฒนาประเทศในอนาคต

พร้อมทั้งวางยุทธศาสตร์ให้ประเทศเป็นศูนย์กลางการผลิตในอุตสาหกรรมเป้าหมายและการเกษตร พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้ ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีสวัสดิการที่เหมาะสม รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการภาครัฐ โดยการใช้นวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัลให้เกิดประโยชน์สูงสุด

อย่างไรก็ตามการจัดทำงบประมาณ โดยพิจารณาลำดับความสำคัญตามความจำเป็นเร่งด่วนและสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งพิจารณาทบทวนเพื่อชะลอ ปรับลด หรือยกเลิกการดำเนินโครงการที่หมดความจำเป็นหรือมีความสำคัญในระดับต่ำ รวมถึงลดรายจ่ายประจำที่ซ้ำซ้อนและไม่ก่อให้เกิดประสิทธิผล โดยคำนึงถึงการใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่า ประหยัด มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล รวมถึงศักยภาพการดำเนินงานของหน่วยรับงบประมาณในปีที่ผ่านมา

พร้อมกันนี้จัดทำแผนงาน/โครงการ โดยมีการกำหนดเป้าหมาย ตัวชี้วัดผลลัพธ์ที่ชัดเจน และเป็นประโยชน์กับประชาชนหรือเป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ โดยจะต้องส่งผลต่อศักยภาพทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ ผลกระทบต้องมีความต่อเนื่องและคงอยู่ในระยะยาว สร้างผลงานใหม่ และมีผลต่อการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน พร้อมกับบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานเพื่อลดความซ้ำซ้อน เกิดความคุ้มค่าในการ ใช้จ่ายงบประมาณ

อย่างไรก็ตามจัดทำงบประมาณโดยพิจารณาให้ครอบคลุมทุกแหล่งเงิน ทั้งเงินงบประมาณ และเงินนอกงบประมาณ โดยให้หน่วยรับงบประมาณพิจารณานำเงินนอกงบประมาณ เช่น เงินรายได้ เงินสะสมคงเหลือ มาดำเนินภารกิจของหน่วยรับงบประมาณเป็นลำดับแรก รวมทั้งพิจารณาแหล่งเงินอื่น เพื่อดำเนิน โครงการภาครัฐ เช่น เงินกู้ การร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnerships: PPP) เพื่อลดภาระงบประมาณของประเทศ

อีกทั้งยังต้องให้ความสำคัญกับการจัดทำงบประมาณมิติพื้นที่ (Area) ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาพื้นที่ ระดับภูมิภาค กลุ่มจังหวัด จังหวัด และท้องถิ่น ตรงตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้ง เพิ่มความร่วมมือระหว่างราชการส่วนกลางและส่วนท้องถิ่นในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล

นอกจากนี้ยังต้องดำเนินการให้เป็นไปตามบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 กฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี

รวมไปถึงข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ วุฒิสภา อีกด้วย