นายกฯ บี้เบิกจ่ายงบประมาณ ถก ครม.เศรษฐกิจ พบงบค้างท่อปีก่อน 3 แสนล้าน

15 ต.ค. 2568 | 08:17 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ต.ค. 2568 | 08:22 น.

ครม.เศรษฐกิจ บี้เบิกจ่ายงบประมาณ 2569 เต็มพิกัด พบงบค้างท่อปีก่อน 3 แสนล้านบาท หลังส่วนราชการเบิกจ่ายหลุดเป้า ขอกันเหลื่อมปี ตั้ง KPI บีบผลงานหัวหน้าหน่วยงาน

KEY

POINTS

  • ครม.เศรษฐกิจ พบงบประมาณปี 2568 เหลือจ่ายและถูกกันไว้เบิกเหลื่อมปีสูงกว่า 3 แสนล้านบาท โดยเฉพาะงบลงทุนที่เบิกจ่ายได้เพียง 65%
  • สั่งการให้หน่วยงานที่ของบเหลือจ่ายและมี TOR เรียบร้อยแล้ว เร่งเบิกจ่ายงบประมาณเก่าที่ค้างท่อให้เสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2569
  • กำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2569 ให้ไม่ต่ำกว่า 93% และงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 75% พร้อมตั้งเป็นตัวชี้วัด (KPI) ของหัวหน้าส่วนราชการ

วันนี้ (14 ตุลาคม 2568) นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ 

โดยกรมบัญชีกลางได้รายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณในปีงบประมาณ 2568 พบว่า มีงบเหลือจ่ายและขอกันเหลื่อมปีสูงเป็นกว่า 300,000 ล้านบาท โดยเฉพาะงบลงทุนที่สามารถเบิกจ่ายได้แค่ 65% เท่านั้น ทำให้ในปีงบประมาณ 2569 มีเงินเหลือจากปีก่อนมาใช้ในปีนี้จำนวนมาก

"ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ ได้สั่งให้เร่งการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกำหนดว่าหน่วยงานใดที่ของบเหลือจ่ายและมีทีโออาร์เรียบร้อยแล้ว ก็ให้เร่งเบิกจ่ายให้เสร็จภายในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2569 รือภายในเดือนมี.ค.2569 เพื่อดึงงบเก่าที่ใช้ไม่มีประสิทธิภาพมาฟื้นเศรษฐกิจ"

ขณะเดียวกันในการใช้จ่ายงบประมาณปี 2569 วงเงินกว่า 3.78 ล้านล้านบาท นั้น ได้มีข้อกำหนดว่าทุกส่วนราชการจะต้องเบิกจ่ายงบประมาณให้ได้ไม่ต่ำกว่า 93% เช่นเดียวกับงบลงทุน ต้องเบิกจ่ายไม่ต่ำกว่า 75%

พร้อมกำหนดเงื่อนไขว่า จะตั้งเป็นตัวชี้วัด (KPI) ของหัวหน้าส่วนราชการด้วย ขณะที่เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ยังแจ้งว่า นอกจากการตั้งเป็น KPI แล้ว จะต้องติดตามความคืบหน้าเป็นรายเดือน เสนอให้นายกรัฐมนตรี พิจารณาด้วย

"นายกฯ ได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ โดยเฉพาะของกระทรวงมหาดไทยที่นายกฯ กำกับดูแล รวมไปถึงกระทรวงคมนาคมด้วย เพื่อให้งบ 3.78ล้านล้านบาท ใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการกำหนดเรื่องการทำทีโออาร์ต้องระบุว่าจะเสร็จภายในกี่วัน และเงินที่จะลงไปต้องลงไปภายใน 5 วันให้ได้"