ครม.เศรษฐกิจ เคาะแพ็คเก็จกระตุ้นท่องเที่ยว ลดหย่อนภาษี 2 หมื่น

15 ต.ค. 2568 | 06:36 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ต.ค. 2568 | 06:44 น.

ครม.เศรษฐกิจ เคาะแพ็คเก็จกระตุ้นท่องเที่ยว ลดหย่อนภาษีสูงสุด 2 หมื่น หนุนโรงแรมรีโนเวทธุรกิจ เพิ่มความสามารถการแข่งขัน หักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า คาดกระตุ้นจีดีพี 0.4%

KEY

POINTS

  • ครม.เศรษฐกิจอนุมัติมาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวในประเทศสูงสุด 20,000 บาท โดยให้สิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นสำหรับการเที่ยวเมืองรอง
  • สนับสนุนผู้ประกอบการโรงแรมด้วยการลดหย่อนภาษี 2 เท่าสำหรับการปรับปรุงกิจการ และเตรียมปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) 1 แสนล้านบาท
  • ลดภาษีสรรพสามิตสำหรับสถานบริการจาก 10% เหลือ 5% และเร่งรัดให้หน่วยงานรัฐเบิกจ่ายงบสัมมนาเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจนัดแรก ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแพ็คเกจกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยจะเสนอครม.อนุมัติต่อไปใในสัปดาห์หน้า ซึ่งมีรายละเอียด ได้แก่

มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว

ซึ่งให้สิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุด 2 หมื่นบาท โดยท่องเที่ยวเมืองหลัก ได้รับสิทธิการลดหย่อน 1 เท่า ขณะที่การท่องเที่ยวเมืองรอง ได้รับสิทธิลดหย่อนสูงสุง 1.5 เท่า สามารถเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 29 ต.ค.-15 ธ.ค.68 

ทั้งนี้ จะนำข้อเสนอจากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยไปพิจารณาด้วย ในเรื่องการกระตุ้นการท่องเที่ยวนิติบุคคล โดยให้บริษัทต่าง ๆ ที่เดิมอาจจะพาพนักงานไปเที่ยวต่างประเทศ หันกลับมาเที่ยวในประเทศไทยแทน และสามารถหักค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดว่าจะหักค่าใช้จ่ายได้เท่าไหร่

เร่งส่วนราชการเบิกจ่ายงบอบรมสัมนา

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้อนุมัติการกระตุ้นท่องเที่ยวเพิ่มเติม โดยกำหนดให้ภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เลื่อนจัดงานสัมนา อบรมจากเดิมเน้นช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ เปลี่ยนเป็นเข้าไปใช้งบประมาณดังกล่าวช่วงต้น (Front load) หรือโดยต้องเบิกจ่ายให้ได้ 60% ภายในม.ค.69 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างเร่งด่วน

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

“งบประมาณสำหรับราชการมีประมาณ 3,000 กว่าล้านบาท และรัฐวิสาหกิจประมาณ 3,000 กว่าล้านบาท รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีงบประมาณสำหรับอบรมสัมมนาอยู่แล้ว ซึ่งตัวเลขการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว 8 เดือนที่ผ่านมาติดลบประมาณ 8% รัฐบาลจึงต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจให้หน่วยงานภาครัฐเร่งการเบิกจ่าย” 

ให้สิทธิลดหย่อนโรงแรมรีโนเวทธุรกิจ

นายเอกนิติ กล่าวว่า จากนโยบาย Quick Big Win กระตุ้นสั้น แต่ได้ผลในระยะยาวนั้น ที่ประชุมได้อนุมัติมาตรการสนับสนุนโรงแรมปรับปรุง รีโนเวทธุรกิจ โดยเฉพาะในเมืองรอง หากมีการปรับปรุงธุรกิจ จะสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ทั้งนี้ ยังขยายขอบเขตไปถึงการลงทุนพัฒนาโรงแรม อาทิ การติดโซลาเซลล์ เพื่อความยั่งยืน และลดค่าใช้จ่ายระยะยาว ซึ่งระยะเวลาโครงการนานถึงเดือนมี.ค.69

ลดภาษีสถานบริการ เหลือ 5%

ขณะเดียวกัน ในส่วนของกระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพสามิต ยังได้ลดภาษีสถานบริการ จาก 10% เหลือ 5% นอกจากนี้ ยังมีการหารือกับกระทรวงท่องเที่ยว ให้ไปพิจารณาแนวทางเพื่อให้ผู้ประกอบการที่ยังทำธุรกิจไม่ถูกต้อง และต้องเปิดแบบหลบซ่อน ได้เข้าสู่ระบบเพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วย โดยจะมีการประสานกระทรวงมหาดไทย และกรมการปกครอง เข้าไปดูแลด้วย

นายเอกนิติ ยังกล่าวอีกว่า ตามกรอบนโยบาย Quick Big Win นั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ยังได้ให้กรอบการทำงาน โดยเน้นให้กระทรวงเศรษฐกิจกำหนดนโยบายที่สามารถทำได้รวดเร็ว (Quick) มีผลกระทบใหญ่เพียงพอ (Big) และประชาชนได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึงและกระจายตัว (Win) โดยต้องคิดถึงผลในระยะยาวด้วย

อัดซอฟต์โลน 1 แสนล้าน คาดกระตุ้นจีดีพี 0.4%

ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังเห็นด้วยกับการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยการนำสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) จากธนาคารออมสินมาใช้กับธุรกิจการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ในการรีโนเวทสถานประกอบการ วงเงิน 1 แสนล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลประเมินว่า จากการเดินหน้ามาตรการดังกล่าว รวมถึงโครงการคนละครึ่ง จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 0.4%

นอกจากนี้ ยังมีการวางแผน Action Plan ในแต่ละกระทรวงเศรษฐกิจ เพื่อหารือในที่ประชุม ก่อนเสนอครม.ต่อไป สำหรับการประชุมครม.เศรษฐกิจในสัปดาห์หน้านั้น จะมีการหารือถึงมาตรการพลังงานคาดว่าจะมีมาตรการออกมา เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน รวมทั้งจะมีมาตรการภาษี เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนได้รับทราบเพิ่มเติมด้วย 

“จากนี้จะมีการประชุมครม.เศรษฐกิจทุกสัปดาห์ ยกเว้นบางสัปดาห์ที่นายกฯ ไปประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่มาเลเซีย ซึ่งอาจจะเลื่อนออกไป”