เปิดลงทะเบียนร้านยา 14 ต.ค. ลุยลดค่าครองชีพ ให้ซื้อยาตามใบสั่งแพทย์นอก รพ.

10 ต.ค. 2568 | 10:51 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ต.ค. 2568 | 18:42 น.

กรมการค้าภายใน จับมือ อย. สภาเภสัชกรรม สมาคมร้านขายยา เปิดให้ร้านยาลงทะเบียน 14 ต.ค. ลุยโครงการ 'สุขกาย สบายกระเป๋า' ลดภาระค่ายา ให้ซื้อยาตามใบสั่งแพทย์นอก รพ.เอกชน ได้ที่ร้านยาคิกออฟ 28 ต.ค.

KEY

POINTS

  • กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดให้ร้านขายยาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ "สุขกาย สบายกระเป๋า" ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2568 ผ่านเว็บไซต์ของ อย.
  • โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านยาให้แก่ประชาชน โดยสามารถซื้อยานอกโรงพยาบาลจากร้านยาที่เข้าร่วมโครงการได้
  • โครงการจะเริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการ (Kick off) ในวันที่ 28 ตุลาคม 2568 พร้อมเปิดให้ประชาชนดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพื่อค้นหาร้านยาที่เข้าร่วม

วันนี้ (10 ตุลาคม 2568) นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้ประชุมหารือในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันประกาศความพร้อมในการรองรับการซื้อยานอกโรงพยาบาลในโครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” ลดค่ารายจ่ายค่ายาให้กับประชาชน

โดยมีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สภาเภสัชกรรม สมาคมเภสัชกรรมชุมชนสมาคม ผู้ประกอบการร้านยารวมใจไทย สมาคมร้านขายยา และผู้ประกอบการร้านขายยาราย ใหญ่ทั่วประเทศ อาทิ Pharmax, Icare, Super Drug, Fascino, Save Drug, ร้านยา กรุงเทพ, Pure Pharmacy (ในเครือบิ๊กซี ซู เปอร์เซ็นเตอร์), Exta Plus (ในเครือซีพี ออลล์), Boots, Tops Care และร้านยาโลตัส เข้าร่วม

ทั้งนี้ เบื้องต้นมีโรงพยาบาลเอกชนจะเข้าร่วม โครงการ "สุขกาย สบายกระเป๋า" 10 เครือ มากกกว่า 300 โรงพยาบาล และมี รพ.นอกเครือเข้าร่วมด้วย 

ทั้งนี้จะเปิดให้ลงทะเบียนสำหรับร้านขายยาตั้งแต่ วันที่ 14 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป โดยในวันที่ 28 ตุลาคม 2568 เริ่ม Kick off โครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” และคาดว่าจะมีร้านยาลงทะเบียนอย่างน้อย 2,000 แห่งที่พร้อมให้บริการ 

เปิดลงทะเบียนร้านยา 14 ต.ค. ลุยลดค่าครองชีพ ให้ซื้อยาตามใบสั่งแพทย์นอก รพ.

ขณะเดียว ประชาชนสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น เพื่อค้นหาร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการได้ โดยในแอปฯจะขึ้นร้านยาใกล้บ้านและร้านยาแนะนำ และร้านขายยาจะมีโลโก้สัญลักษณ์

"เมื่อคนไข้ได้รับใบสั่งยามาแล้ว จะสามรรถค้นหาร้านขายยาจากแอปพลิเคชั่นของ อย. เพื่อค้นหาร้านยา นอกจากนี้ภายในแปฯจะช่องทางการติดต่อให้โดยคนไข้จะเลือกพูดคุยกับเภสัชได้" 

นอกจากนี้ได้พูดคุย โครงการช่วงแรกจะดำเนินการให้คร่องตัวมากที่สุด เพื่อให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ และได้คุยประเด็นอื่น ๆ ในเฟสต่อๆไป 

ด้านนายวราวุธ เสริมสินสิริ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน อย. เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดทำแอปพลิเคชั่น อาทิ การค้นหาร้านขายยาใกล้บ้าน ร้านขายยาแนะนำ และเครือข่ายร้านยา อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน 

สำหรับไทม์ไลน์ลงทะเบียนร้านขาย จะเปิดให้ลงทะเบียนในวันที่ 14 ตุลาคม 2568 ผ่านเว็บไซต์ อย. 

ส่วนแอปพลิเคชั่นที่ใช้ในโครงการฯ จะเป็นแอปพลิเคชั่นที่เปิดใหม่ โดยประชาชนสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น วันที่ 28 ตุลาคมนี้

 

เปิดลงทะเบียนร้านยา 14 ต.ค. ลุยลดค่าครองชีพ ให้ซื้อยาตามใบสั่งแพทย์นอก รพ.

 

สำหรับเกณฑ์&เงื่อนไขการลงร้านยาแนะนำ

  1. สมัครใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกับ อย.
  2. เป็นร้านยาคุณภาพ สภาเภสัชกรรม หรือร้านยาที่เป็นสมาชิกของสมาคมวิชาชีพ ได้แก่ สมาคมเภสัชกรรมชุมชน สมาคมร้านขายยา และสมาคมผู้ประกอบการร้านยารวมใจไทย
  3. พร้อมมีช่องทางการติดต่อประสานงานสำหรับผู้มารับบริการ เพื่อตรวจสอบยืนยัน รายการ จํานวน และราคายาได้ เช่น โทรศัพท์, ID LINE โปรแกรมประยุกต์ ด้านการสื่อสารต่างๆ, (Telepharmacy)
  4. พร้อมในการจัดหายาให้ครบถ้วนตามใบสั่งยาภายใน 24 ชั่วโมง หรือตามที่ผู้ป่วยให้ความ เห็นชอบ
  5. พร้อมจัดบริการตามมาตรฐานวิชาชีพเภสัชกรรมที่กำหนด
  6. พร้อมติดต่อประสานงานโรงพยาบาลผู้ออกใบสั่งยาได้ตลอดเวลาให้บริการ หรือกรณีที่มี เหตุจำเป็น 

นอกจากนั้น ยังจะมีแอปพลิเคชั่นร้านขายยาอื่นๆ เข้าร่วมด้วย เบื้องต้น ยังมีผู้ให้บริการจำหน่ายยาที่แสดงความจำนงค์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (Applications) เข้าร่วมแล้ว 11 แบรนด์ ได้แก่ 1. Pharmax 2. Icare 3. Super Drug 4.Fascino 5. Save Drug 6. Pure Pharmacy 7. eXta Plus 8. Tops Care 9. Boots 10. ร้านยาโลตัส 11. ร้านยากรุงเทพ 12. GPO

นอกจากนี้ มีร้านขายยา 8 แอปพลิเคชั่น ได้แก่ 1. TELEHEALTH 2. ร้านยากรุงเทพ 3. ยาพร้อม 4. All Pharmacy 5. PharmCare 6. BeDee 7. AskMacy by Fascino 8. BIGYA

 

เปิดลงทะเบียนร้านยา 14 ต.ค. ลุยลดค่าครองชีพ ให้ซื้อยาตามใบสั่งแพทย์นอก รพ.

 

โดยมีเภสัชกรประจำให้คำปรึกษาแนะนำอย่างใกล้ชิด โดยทุกฝ่ายเห็นพ้องว่าโครงการนี้จะเป็นการยกระดับระบบสุขภาพของประชาชนให้มีมาตรฐานเดียวกันกับโรงพยาบาลเอกชน และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านยาให้กับประชาชนในวงกว้าง

นายปรีชา พันธุ์ติเวช นายกสภาเภสัชกรรม กล่าวว่า สำหรับมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้ยา ยืนยันว่า จะมีเภสัชกรให้คำแนะนำในการใช้ยาอย่างถูกต้อง ดังนั้น ให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า ถึงแม้จะรับยาที่ร้านยา แต่การบริการก็ยังเป็นเภสัชกร ซึ่งสามารถให้คำแนะนำเรื่อง ยาสามารถติดตามอาการ และหากมีปัญหาในการใช้ยาก็สามารถปรึกษาเภสัชกรได้