ผู้ว่าธปท.ยันไม่คิดล้วงทุนสำรองตั้งกองทุนมั่งคั่ง แจงไม่ช่วยบาทอ่อน

10 ต.ค. 2568 | 08:41 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ต.ค. 2568 | 08:41 น.

ผู้ว่าการ ธปท. 'วิทัย รัตนากร' ยัน "ไม่มีแนวคิดล้วงทุนสำรอง" มาตั้งกองทุน เหตุเป็นดอลลาร์ไม่ช่วยลดความแข็งค่าของเงินบาท ยันธปท.บริหารทุนสำรองมีมาตรฐาน ดีอยู่แล้ว

KEY

POINTS

ผู้ว่าการ ธปท. ยืนยันไม่มีแนวคิดนำเงินทุนสำรองมาตั้งกองทุนความมั่งคั่ง (SWF) เพื่อแก้ปัญหาเงินบาทแข็งค่า ชี้ว่า การโยกเงินดอลลาร์ไม่ช่วยให้บาทอ่อนลงตามทฤษฎี

เงินบาทไม่ได้แข็งค่าที่สุดในภูมิภาค แต่จะต้องการติดตามเงินทุนไหลเข้าที่อาจกระทบต่อค่าเงิน จึงต้องประสานงานกับหลายหน่วยงาน เช่น ก.ล.ต. และ ปปง. เพื่อให้เห็นข้อมูลทั้งหมดและจัดการปัญหาได้อย่างแม่นยำ

 ยอมรับว่า การซื้อขายทองคำผ่านแอปพลิเคชันอาจเป็นส่วนเสริมที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น จึงอยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงการคลังว่าจะมีความจำเป็นต้องออก มาตรการควบคุมเฉพาะส่วนนี้ หรือไม่ 

นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เปิดเผยถึงแนวคิดการจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งหรือ Sovereign Wealth Fund ว่า การจัดตั้งกองทุน เพื่อวัตถุประสงค์ในการช่วยให้เงินบาทอ่อนค่านั้น ไม่ถูกต้องตามทฤษฎี

เนื่องจากโดยหลักแล้ว เงินสำรองเป็นเงินตราต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นดอลลาร์ การโยกเงินดอลลาร์จากบัญชีหนึ่งไปตั้งเป็น Fund ใหม่ จะไม่ช่วยทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงเลย 

การดำเนินการที่จะส่งผลต่อค่าเงินบาท คือ จะต้องใช้เงินบาทตั้งต้นใหม่ เพื่อไปซื้อเงินดอลลาร์ แล้วนำเงินดอลลาร์ก้อนใหม่นั้นไปบริหารจัดการ ซึ่งจะทำให้เกิดความต้องการซื้อเงินดอลลาร์และขายเงินบาท ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้ แต่ ธปท. ไม่ได้มีเงินก้อนนั้น

 

ขณะเดียวกัน ธปท.ยังไม่มีแนวความคิดที่จะจัดตั้งกองทุนมั่งคั่ง เพื่อหาผลตอบแทนในขณะนี้  เนื่องจากการบริหารเงินทุนสำรองทางการระหว่างประเทศ (International reserves)ของธปท.ในปัจจุบัน มีความซับซ้อนและเป็นมาตรฐานที่ดีมาก ซึ่งมีการลงทุนในทองคำ สกุลเงินต่างประเทศที่ไม่ใช่สหรัฐฯ และแม้กระทั่งในหุ้น (equity) ในสัดส่วนที่จัดไว้ค่อนข้างดีอยู่ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการบริหารความระมัดระวัง 

ผู้ว่าธปท.ยันไม่คิดล้วงทุนสำรองตั้งกองทุนมั่งคั่ง แจงไม่ช่วยบาทอ่อน

สำหรับปัญหาเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น นายวิทัยกล่าวว่า เงินบาทไม่ได้แข็งค่าเหมือนในช่วงที่ผ่านมา โดยมีอัตราการแข็งค่าประมาณ 4.5% และไม่ได้แข็งค่ามากที่สุดในอาเซียน เมื่อเทียบกับไต้หวันและมาเลเซีย  ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาทมาจากทิ?งของค่าเงินดอลลาร์และ กระแสเงินเข้าและออก และปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจเอง

ส่วนเงินที่ไหลเข้ามาแล้วน่ามีความน่าสงสัยว่า อาจเข้ามากระทบต่อค่าเงินบาทให้แข็งค่าหรือไม่ ธปท. มีความสงสัยและต้องการติดตามดูว่าเงินเหล่านี้มีปริมาณมากน้อยเพียงใดและมีผลกระทบอย่างไร

การติดตามเงินเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของหลายหน่วยงาน เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กระทรวงการคลัง และ ปปง. เนื่องจาก ธปท. เพียงหน่วยงานเดียวไม่สามารถเห็นข้อมูลทั้งหมดได้ 

ผู้ว่าธปท.ยันไม่คิดล้วงทุนสำรองตั้งกองทุนมั่งคั่ง แจงไม่ช่วยบาทอ่อน

ส่วนประเด็นการซื้อขายทองคำและมีผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นหรือไม่นั้น ยอมรับว่า ทองคำอาจจะเป็นส่วนเสริมบ้างที่ทำให้บาทแข็งมากขึ้น แต่เป็นเฉพาะทองคำที่มีการซื้อขายผ่านแอปพลิเคชั่น ไม่เกี่ยวกับการซื้อขายของรายย่อย

ธปท.กำลังหารือกับกระทรวงการคลัง ร้านทองว่า จำเป็นต้องออกมาตรการในส่วนแอปฯ หรือไม่ ถ้าจำเป็นต้องเร่งสรุป แต่ส่วนตัวไม่จำเป็นก็ไม่อยากออก