'วิศิษฐ์' ชี้ ภาษีทรัมป์–บาทแข็ง บีบส่งออกไทย เร่งปิดดีล FTA–เจาะตลาดใหม่

03 ต.ค. 2568 | 06:15 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ต.ค. 2568 | 07:47 น.

'วิศิษฐ์' รองประธานหอการค้าไทย ระบุ ภาษีทรัมป์ เงินบาทแข็งค่า กระทบศักยภาพการส่งออกไทย ต้องเร่งหาตลาดใหม่ควบคู่รักษาตลาดเดิม พร้อมดันเอฟทีเอกับอียูปิดดีลเร็วขึ้น หนุน SMEs และใช้ Digital Transformation ลดต้นทุน เสริมขีดแข่งขัน

KEY

POINTS

  • การส่งออกของไทยเผชิญแรงกดดันจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ นโยบายภาษีของทรัมป์ที่กระทบตลาดสหรัฐฯ และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งลดความสามารถในการแข่งขันด้านราคา
  • สถานการณ์ดังกล่าวเป็นโอกาสให้ไทยเร่งเจรจาและปิดข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับคู่ค้าอื่น ๆ ได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะกับสหภาพยุโรป (EU) เพื่อลดผลกระทบ
  • เสนอให้เร่งเจาะตลาดส่งออกใหม่ ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง ควบคู่ไปกับการรักษาตลาดหลักเดิม และเพิ่มขีดความสามารถสินค้าไทยด้วยนวัตกรรมและการสร้างเรื่องราว

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานหอการค้าไทย กล่าวในเวทีสัมมนา Sustainability Expo 2025 A Call for Adaptation The Sustainability in Trade & Industry หัวข้อ “ผนึกพลังทางการค้า เปลี่ยนความท้าทายสู้โอกาส” จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ ร่วมกับ Sustainability Expo 2025 หรือ SX ว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขาลงจากความกดดันต่างๆทั้งความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศมหาอำนาจ สงครามการค้า 

ล่าสุดภาษีทรัมป์ ไทยหนีไม่พ้นที่จะเจอผลกระทบ โดยเฉพาะตลาดสหรัฐ ที่เริ่มมีความชัดเจนในในเรื่องผลกระทบจากการส่งออกไปตลาดสหรัฐ แข่งขันยากขึ้น ทำให้เราต้องมองถึงตลาดใหม่ ซึ่งคำว่าตลาดใหม่อาจไม่ใช่ตลาดใหม่จริงๆเพราะกว่าที่เราจะไปตลาดใหม่ได้ก็ต้องใช้เวลา และยังต้องเจออะไรอีกหลายเรื่อง สินค้าอะไรที่เราจะส่งออก 

รวมทั้งการเจรจาความตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอที่เราจะต้องทำกับตลาดใหม่ ดังนั้นเรายังต้องยึดตลาดเก่าอยู่ ไม่ว่าจะเป็นตลาดยุโรป เอเชีย อาเซียน ที่เป็นตลาดหลักของไทย

นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า ภาษีทรัมป์ แม้จะส่งผลกระทบกับทั่วโลกแต่อีกด้านก็เป็นแรงส่งให้ประเทศต่างๆเร่งการทำเอฟทีเอ โดยเฉพาะสหภาพยุโรป (อียู) ที่เศรษฐกิจไม่ดี ซึ่งไทยกำลังเจรจาเอฟทีเอกับอียู คาดว่าน่าจะปิดดีลได้เร็วนี้ จากที่เคยเจรจาในประเด็นต่างที่ยากก็กลับมาง่ายและเร็วขึ้น เช่น อียู เน้นเรื่อง Sustainability กว่าจะเจรจาจบได้ แต่ปัจจุบันลดน้ำหนักเรื่องนี้ไปมากทำให้การเจรจาเร็วขึ้น

“ในภาวะแบบนี้ทั่วโลกถูกแรงกดดันจากสหรัฐ แต่หากมองอีกด้านก็เป็นช่วงจังหวะที่ดีในการเจรจาเอฟทีเอกับหลายๆประเทศ เพื่อความร่วมมือทางการค้า ลดผลกระทบจากภาษีทรัมป์”นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา กล่าว 

 

'วิศิษฐ์' ชี้ ภาษีทรัมป์–บาทแข็ง  บีบส่งออกไทย เร่งปิดดีล FTA–เจาะตลาดใหม่

 

นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า นอกจากภาษีทรัมป์ที่กดดันเศรษฐกิจไทย ค่าเงินบาทก็เป็นแข็งค่ามาก ซึ่งจำเป็นต้องต้นหาสาเหตุของการแข็งค่า เพราะถือเป็นจุดอ่อนการส่งออกของไทย ซึ่งเราส่งออก 60 % ความสามารถในแข่งขันมีความจำเป็นไม่ใช่แค่เราผลิตเก่ง เท่านั้นแต่เราต้องมีเรื่องของราคาที่จะต้องแข่งขันกับคู่แข่งได้ด้วย เพราะปัจจุบันสินค้าประเภทเดียวกันเริ่มมีคู่แข่งมากขึ้นผลิตออกมาขายเพื่อแข่งกับสินค้าไทย 

ดังนั้นสิ่งที่เราต้องคือ เร่งปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มโอกาสสินค้าไทยในตลาดมากขึ้น ทั้งเรื่องของการเพิ่มมูลค่าสินค้า นวัตกรรม แพ็คจิ้ง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหรือการผลิตสินค้าเพื่อตอบโจทย์สุขภาพ ตอบโจทย์สังคมผู้สูงวัย เช่น อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารแห่งอนาคต

นอกจากนี้เราต้องทำสตอรี่หรือเรื่องราวของสินค้าให้โดนใจผู้บริโภค ซึ่งไทยยังขาดเรื่องนี้อยู่มาก หากเทียบกับประเทศอื่น เช่น ญี่ปุ่นที่ทำสตอรี่สินค้าจนเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก

 

'วิศิษฐ์' ชี้ ภาษีทรัมป์–บาทแข็ง  บีบส่งออกไทย เร่งปิดดีล FTA–เจาะตลาดใหม่

 

นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า สำหรับโอกาสการค้าของไทย มองว่า ต้องมองเรื่องการเปิดตลาดใหม่ ซึ่งเราต้องค้าขายกับคนทั้งโลก แต่เราก็ต้องไม่ลืมดูแลเอสเอ็มอีให้สามารถแข่งขันได้ เช่น การเลือกตลาด ที่ต้องตรงกับสินค้าที่เอสเอ็มอีผลิต มาตราฐานของประเทศนั้นที่เราไปค้าขายเอสเอ็มอีสามารถทำได้ตามมาตราฐานหรือไม่ เป็นต้น 

นอกจากนี้ ในเรื่องของ Digital Transformation ที่ต้องนำมาใช้ในธุรกิจ เพื่อลดต้นทุน ลดเวลาทำธุรกิจและอำนาวยความสะดวกด้านธุรกิจ ซึ่งจะเป็นเซอร์วิสให้กับผู้ส่งออกไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่หรือรายเล็กและยังป้องกันการทุจริต มีความโปร่งใสตรวจสอบได้