‘พิพัฒน์’ ยันยังไม่ยกเลิกสัญญา ‘ไฮสปีดเทรน’ EEC มูลค่า 2.2 แสนล้าน

07 ต.ค. 2568 | 04:13 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ต.ค. 2568 | 04:17 น.

รองนายกฯ ‘พิพัฒน์ รัชกิจประการ’ ยืนยันยังไม่ยกเลิกสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน EEC มูลค่ากว่า 2.2 แสนล้าน พร้อมทำตามข้อแนะนำอัยการสูงสุด

KEY

POINTS

  • รองนายกฯ พิพัฒน์ ยืนยันว่ายังไม่มีการยกเลิกสัญญารถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (EEC) มูลค่า 2.2 แสนล้านบาท
  • กระทรวงคมนาคมเตรียมเชิญบริษัทเอกชนคู่สัญญาเข้ามาหารือร่วมกันในสัปดาห์หน้าเพื่อแก้ไขปัญหาโครงการ
  • ประเด็นหลักในการหารือคือปัญหาการส่งมอบพื้นที่ของภาครัฐและอุปสรรคของภาคเอกชน โดยจะดำเนินการตามคำแนะนำของอัยการสูงสุด

วันนี้ (7 ตุลาคม 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา) มูลค่าการลงทุนกว่า 2.24 แสนล้านบาท ระหว่าง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับ บริษัท เอเชีย เอราวัน จำกัด คู่สัญญานั้น ขณะนี้ยังไม่มีการยกเลิกสัญญา โดยเร็ว ๆ นี้ จะเชิญเอกชนคู่สัญญาเข้ามาหารือร่วมกันในสัปดาห์หน้า

นายพิพัฒน์ ระบุว่า ในการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ล่าสุดมี 2 ส่วนสำคัญ คือ 1.ส่วนราชการสามารถคืนพื้นที่ได้จนภาคเอกชนสามารถดำเนินงานได้หรือไม่ หรือ ส่วนราชการยังไม่สามารถคืนพื้นที่ให้เอกชนได้จนไม่สามารถเริ่มงานได้ หรือ 2.ภาคเอกชนติดขัดเรื่องอะไร ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องหารือกัน

"สัญญาที่เซ็นไปแล้วนั้น ที่ผ่านมาได้หารือกับสำนักงานอัยการสูงสุดว่า กระทรวงคมนาคมจะพยายามทำตามข้อแนะนำ สัญญาส่วนไหนที่เราสามารถทำได้ รัฐต้องดำเนินการ แต่สัญญาส่วนไหนที่รัฐทำไม่ได้ หรือผู้ประกอบการทำไม่ได้ เราต้องมานั่งดูกัน โดยการแก้สัญญาเราจะทำตามคำแนะนำของอัยการสูงสุด"

นายพิพัฒน์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการเลื่อนเปิดพื้นที่หลุมยุบถนนสามเสนหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ว่า สาเหตุที่มีการเลื่อน เพราะนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้รื้อฝั่ง สน. สามเสน เพราะยังเสี่ยงอันตราย จึงขอรื้อสถานีตำรวจสามเสนให้เรียบร้อยก่อน จึงไม่สามารถคืนพื้นผิวจราจรได้ทันตามกำหนดวันที่ 8 - 9 ตุลาคม นี้ หลังจากนั้นจะลงทรายหินคลุก และวัสดุอื่น ๆ เพื่อคืนพื้นผิวจราจรต่อไป