KEY
POINTS
ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยาและพฤติกรรมอาชญากร อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวตอนหนึ่งในการเสวนาหัวข้อ "สร้างภูมิคุ้มกันคนไทยจากภัยการเงิน" ในงาน BOT Symposium 2025 "เท่าทันภัยการเงิน" ซึ่งจัดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยเน้นย้ำถึง ความเปราะบางทางเศรษฐกิจและกลไกทางจิตวิทยาของมนุษย์ ที่ทำให้คนไทยตกเป็นเหยื่อและผู้กระทำความผิดในอาชญากรรมทางการเงิน
ดร.ตฤณห์ วิเคราะห์ว่า ปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ประชาชนยอมเสี่ยงกับการกระทำผิด เช่น การเปิดบัญชีม้า หรือหลงเชื่อกลโกงง่าย ๆ นั้น มาจาก ความไม่เท่าเทียมในการต่อสู้ทางเศรษฐกิจ
“การหาเงินสำหรับคนในประเทศของเรานั้นมีโอกาสไม่เท่ากันประเทศไทยยังมี ระบบคนพิเศษ หรือ ระบบอภิสิทธิ์ชน ที่เกิดมาพร้อมกับอาวุธ ที่มากกว่าคนทั่วไป ทำให้การต่อสู้ทางเศรษฐกิจของพวกเขาสบายกว่าคนส่วนมากของประเทศ" ” ดร.ตฤณห์ กล่าว
มีการชี้ตัวเลขที่น่าตกใจว่า คนไทยที่มีบ้านหรือทรัพย์สินเป็นของตนเองมีเพียงไม่ถึง 2% ของประเทศ ซึ่งหมายความว่า 98% ของคนส่วนใหญ่เป็นคนที่มีสถานะทางเศรษฐกิจน้อยหรือยากจน
ดร.ตฤณห์ อธิบายว่า เมื่อประชาชนมีโอกาสน้อยในการต่อสู้เพื่อให้ได้เงินมา โอกาสใด ๆ ก็ตามที่เข้ามาหาคนไทยจึงมักจะถูกกระโดดตะครุบเสมอ หากสิ่งนั้นให้เงินได้ง่ายและเร็ว แม้จะมีความเสี่ยงสูงก็ยอม
สำหรับกรณี "บัญชีม้า" นั้น ผู้กระทำความผิดรับรู้ว่ามีความเสี่ยงที่จะโดนจับ แต่ก็ยังเปิด เนื่องจากสถิติการจับกุมยังน้อยกว่าสถิติการเปิดบัญชีม้า พวกเขารู้สึกว่าความเสี่ยงนั้น "สมน้ำสมเนื้อ" กับการได้เงิน 5,000 ถึง 10,000 บาท โดยไม่ต้องทำงาน เพียงแค่เปิดบัญชี
นอกจากนี้ ค่านิยมของสังคมที่เน้นวัตถุและฐานะ ยังเป็นแรงผลักดันสำคัญ บางคนในสังคมที่ให้คุณค่ากับการมีรถสปอร์ต หรือ iPhone ทำให้คนรุ่นใหม่คิดว่าตนเองต้องมีวัตถุเหล่านี้เพื่อที่จะได้เท่าเทียมกับคนอื่น ส่งผลให้พวกเขาทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้วัตถุนั้นมา
"ประเทศไทยยังล้าหลังอยู่มากในเรื่องของ "จิตสำนึกส่วนรวม" ทำให้ผู้ที่เปิดบัญชีม้า แม้จะรู้ว่ากำลังทำร้ายเพื่อนร่วมชาติ แต่ก็ยังทำ เพราะตนเองได้ประโยชน์"
ในแง่มุมที่รุนแรงกว่านั้น ดร.ตฤณห์ ได้ยกตัวอย่างถึงความน่ากลัวของสังคมที่ให้คุณค่ากับวัตถุ โดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้าน ที่ความมักง่ายและความยากจนนำไปสู่การ ขายอวัยวะ เช่น ไต เพื่อซื้อวัตถุ โดยเผยข้อมูลว่าในตลาดมืด ราคาไตอาจสูงถึง 800,000 ถึง 3 ล้านบาท แต่เอเจนซีอาจให้เงินชาวบ้านยากจนเพียง 50,000 บาทเท่านั้น และภัยที่เลวร้ายกว่านั้นคือ การลักพาตัวเพื่อเก็บเกี่ยวอวัยวะ โดยไม่ขอความยินยอม
ในส่วนของการวิเคราะห์ว่าทำไมคนถึงตกเป็นเหยื่อซ้ำ ๆ ทั้งที่ทราบข่าว ดร.ตฤณห์ อธิบายว่า scammers ใช้กลไกการทำงานของสมอง
ดร.ตฤณห์ ชี้ว่า อารมณ์เชิงลบ 3 อย่าง คือปัจจัยที่ทำให้คนตกเป็นเหยื่อวิชาชีพทุกรูปแบบ ได้แก่ ความกลัว ความโกรธ และความหลง
“เมื่อไหร่ที่โดนกระตุ้นด้านอารมณ์สูงขึ้น การคิดของสมองส่วนหน้าจะถูกกดลง” ดร.ตฤณห์ อธิบาย ทำให้แม้จะรู้ทุกอย่าง แต่ถ้าอารมณ์อยู่เหนือนำ เหตุผลจะหายไปชั่วคราว สถานการณ์ความตกใจนี้มักจะอยู่ประมาณ 15-20 นาที
ดร.ตฤณห์ ได้เสนอวิธีการป้องกันตัวที่ง่ายที่สุด คือ "การหยุดคิด" หากรับสายจากคอลเซ็นเตอร์ ให้จดรายละเอียดมา แล้ว วางสาย จากนั้นใช้เวลา 45 ถึง 60 นาที เพื่อคิดถึงความสมเหตุสมผลและตรวจสอบเบอร์เหล่านั้นอีกครั้งก่อนตัดสินใจ
"การมีสติเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยต่อต้าน Authority Bias หรืออคติทางอำนาจ ที่ทำให้เราเชื่อว่าคนที่โทรมาคือเจ้าหน้าที่รัฐ ถ้ามันโทรมาแล้วเร่งเร้า ให้เราต้องนั่งพูด ทุกเวทีคือคำว่า สติ” ดร.ตฤณห์ สรุป