ฉีด 1.5 แสนล้าน ฟื้นแผ่นดินไหว กู้วิกฤตอสังหาฯ-ท่องเที่ยว

02 เม.ย. 2568 | 01:05 น.
อัปเดตล่าสุด :02 เม.ย. 2568 | 01:36 น.

รมช.คลังเผยรัฐบาลกันงบไว้แล้ว 1.5 แสนล้านบาท คลอดแพ็กเกจฟื้นเศรษฐกิจ-ปลุกความเชื่อมั่นหลังแผ่นดินไหว ทั้งภาคอสังหาฯและการท่องเที่ยว ด้าน “ดร.เอ้” แนะ 3 แนวทางรับมือในอนาคต

จากเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมาขนาด 8.2 เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 ได้สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในวงกว้าง ประชาชนรับรู้แรงสั่นสะเทือนถึง 63 จังหวัด มีรายงานความเสียหายใน 19 จังหวัด 103 อำเภอ 275 ตำบล 412 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ รวมทั้งตึกอาคาร บ้านเรือน และสถานที่สำคัญได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของประเทศ

 

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า เร็วๆ นี้กระทรวงการคลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ เพื่อลดผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ผ่านการผ่อนเกณฑ์ LTV (Loan to Value) ควบคู่ไปกับมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง ซึ่งทั้งสองมาตรการ ได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงในช่วงสถานการณ์โควิด-19

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลจะมีมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหา ปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณา โดยส่วนของกระทรวงการคลังจะดูแลเยียวยา กระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว

 

ฉีด 1.5 แสนล้าน ฟื้นแผ่นดินไหว กู้วิกฤตอสังหาฯ-ท่องเที่ยว

 

“ยืนยันว่า กระทรวงการคลังมีเงินงบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจ สามารถรองรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ โดยมีวงเงินที่กันไว้เหลืออยู่ 1.5 แสนล้านบาท โดยมาตรการด้านสินเชื่อ การกระตุ้น ภาคอสังหาริมทรัพย์ และโครงการแจกเงินดิจิทัล อยู่ในกระบวนการดำเนินงานของรัฐบาล โดยรัฐบาลจะเร่งสร้างความเชื่อมั่น โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว และภาคอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการจัดการของรัฐบาล การควบคุมสถานการณ์ และการพิสูจน์เชิงวิศวกรรม เพราะความเชื่อมั่นเป็นสิ่งที่สำคัญ” นายเผ่าภูมิกล่าว

 ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังอีกคนหนึ่ง กล่าวว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวมีผลกระทบระยะสั้นแน่นอน เช่น การจับจ่ายใช้สอยที่ลดลง โดยเฉพาะอาคารสูงและห้างสรรพสินค้า ส่งผลให้การบริโภคจะลดลง แต่ไม่มีผลต่อระยะกลางและระยะยาว

 

“กลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือคอนโดมิเนียม แต่อุปสงค์จะไปโผล่ที่อื่น เช่น ความต้องการซื้อคอนโดอาจจะลดลงบ้าง แต่จะไปซื้อบ้านเดี่ยวแทน รวมถึงการลงทุนในอนาคตที่การก่อสร้างจะต้องเพิ่มโครงสร้างที่มีคุณภาพซึ่งจะมีเม็ดเงินลงทุน เพิ่มเข้าไป ฉะนั้ ผลกระทบใน ระยะยาวจะไม่ถาวร”นายจุลพันธ์กล่าว

 

ก่อนหน้านี้ สถาบันการเงินของรัฐทั้ง 8 แห่ง ได้ออกมาตรการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว ขณะเดียวกัน หน่วยงาน อื่นๆ ก็กำลังจะมีมาตรการออกมา เช่น กรมธนารักษ์ เร็วๆนี้จะออกมาตรการยกเว้นค่าเช่าที่ราชพัสดุ สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว

 

ททท.เดินหน้าจัดสงกรานต์ตลอดเดือนเมษายน

 

ในขณะเดียวกัน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมเดินหน้าจัดงานเทศกาลสงกรานต์ 2568 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยจะยกระดับการจัดงานสู่ระดับ World Event เป็น Grand Festivity ฉลองการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโก และตอกย้ำความเชื่อมั่นว่าเมืองไทยปลอดภัยและพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว

 

ไฮไลท์หลักในกรุงเทพฯ จะอยู่ที่งานมหาสงกรานต์ที่สนามหลวง ในวันที่ 11-15 เมษายน 2568 ซึ่งตั้งเป้าจะทำให้ประเทศไทยติด 1 ใน 10 สุดยอดประเทศเฟสติวัลระดับโลก รวมถึงการจัดงานเทศกาลเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ ภายใต้ความร่วมมือของทั้งภาครัฐและเอกชน โดยจะมีการกระจายพื้นที่และช่วงเวลาจัดงานสงกรานต์ตลอดทั้งเดือนเมษายน

 

กิจกรรมสำคัญในต่างจังหวัดประกอบด้วย งานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง 2568 เชียงใหม่ (7-16 เม.ย.) งานสลุงหลวง กลองใหญ่ ปีใหม่เมือง นครลำปาง (8-14 เม.ย.) ประเพณีสุดยอดอีสาน เทศกาลดอกคูนเสียงแคน และถนนข้าวเหนียว (8-15 เม.ย.) งานมหาสงกรานต์อีสานหนองคาย (12-17 เม.ย.) งานวันไหลชลบุรี (16-20 เม.ย.) และสงกรานต์พระประแดง (25-27 เม.ย.) รวมถึงผลักดันโครงการเที่ยวคนละครึ่งกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศช่วงโลว์ซีซั่น

 

โครงสร้างพื้นฐานรับมือได้

 

ด้านนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ยืนยันว่าโครงสร้างระบบทางพิเศษของ กทพ. มีการออกแบบที่สามารถรองรับแผ่นดินไหวขนาด 8.2 ริกเตอร์ที่เกิดในเมียนมาได้ แม้ว่าจะมีการขยับเคลื่อนเล็กน้อย

 

“สำหรับประเด็นการแก้กฎหมายเกี่ยวกับมาตรฐานโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเกิดแผ่นดินไหวนั้น ต้องให้ทางวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เป็นผู้พิจารณา ในมุมของเรามองว่ายังไม่จำเป็นต้องแก้กฎหมาย เพราะเหตุการณ์ลักษณะนี้ใน 100 ปี เพิ่งเกิดขึ้นครั้งเดียว” นายสุรเชษฐ์กล่าว

 

สอดคล้องกับความเห็นของนายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ) รักษาการแทนผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่ยืนยันว่าจากการตรวจสอบระบบรถไฟฟ้าที่ผ่านมานั้นสามารถรองรับเหตุแผ่นดินไหวได้ เนื่องจากมีการออกแบบรองรับเหตุการณ์เหล่านี้ไว้แล้ว

 

ดร.เอ้ เสนอ 3 แนวทางรับมือแผ่นดินไหวในอนาคต

 

ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกสภาวิศวกรและนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้เสนอแนวทางในการรับมือกับแผ่นดินไหวในอนาคต 3 ประเด็นหลัก

 

ประการแรก การปรับทัศนคติ คนไทยต้องเข้าใจว่าแผ่นดินไหวเป็นภัยที่เกิดขึ้นได้จริงในประเทศไทย ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

 

ประการที่สอง การให้ความรู้ ควรมีการให้ความรู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหวตั้งแต่เด็ก และสอนวิธีการรับมือที่ถูกต้องเมื่อเกิดเหตุการณ์

 

ประการที่สาม การจัดการของรัฐ ควรมีการปรับปรุงระบบการเตือนภัยและการกู้ภัยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

นอกจากนี้ ดร.สุชัชวีร์ยังเรียกร้องให้มีการตั้งองค์กรกลางเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบและเก็บหลักฐานเมื่อเกิดเหตุการณ์ตึกถล่มหรือภัยพิบัติ โดยเฉพาะในกรณีนี้ที่ต้องเก็บหลักฐานไปพร้อมกับการกู้ภัย เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและนำไปสู่การปรับปรุงกฎหมายและมาตรฐานความปลอดภัยในอนาคต

 

ฉีด 1.5 แสนล้าน ฟื้นแผ่นดินไหว กู้วิกฤตอสังหาฯ-ท่องเที่ยว