“โจ ไบเดน” ประกาศให้เงิน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผลิตปุ๋ยในประเทศ

แหล่งข่าววงการค้าพืชไร่ รายงานข่าว ตลาดชิคาโก ณ วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2565  มีคาดการณ์ว่าพื้นที่ปลูกข้าวโพด ถั่วเหลือง และข้าวสาลีในปี 2022/23 จะลดลงเนื่องจากพื้นที่ชุ่มน้ำเกินไปกว่าที่จะหยอดเมล็ดพันธุ์ รวมทั้งพื้นที่ส่วนหนึ่งอยู่ในเขตสงครามรัสเซีย-ยูเครน, ขณะที่สต็อกของปีเก่าจะมีผลผลิตเหลือเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีราคาสูงขึ้นจากสงครามและเงินเฟ้อ

แต่รายได้จากการขายกลับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา, โจ ไบ เดน ประธานาธิบดี  ประกาศให้เงินจำนวน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสนับสนุนการผลิตปุ๋ยในประเทศ เพื่อช่วยบรรเทาต้นทุนวัตฤดิบให้เกษตรกร พร้อมให้กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) ประกันภัยผลผลิตเพื่อส่งเสริมการปลูกข้าวสาลีให้ได้ปริมาณเพิ่มขึ้น เพื่อชดเชยส่วนที่ขาดหายไปในตลาดโลก

ส่วน “ข้าวโพด”  สัญญาพลิกร่วงลงสู่แดนลบจากแรงขายทำกำไรและคาดกรณ์สภาวะอากาศจะเอื้อต่อการเพาะปลูกในสัปดาห์หน้า, WASDE  คาดการณ์ว่าการปลูกข้าวโพดปีใหม่ 2022/23 ของสหรัฐจะได้พื้นที่และผลผลิตลดลง และมีสต็อกคงเหลืองจากปีเก่า 2021/22 เพิ่มขึ้น ซึ่งมีวิธีการลดสต็อกด้วยการนำไปผลิตเอทานอลมากขึ้นและเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาราคาเชื้อเพลิงให้ถูกลง,

ด้าน USDA คงปริมาณผลผลิต ข้าวโพดรุ่น 2 หรือ Safrinha corn ของบราซิล (ผู้ออกรายใหญ่ลำดับที่ 2 ของโลก) ลง 37 ล้านบุชเซล (9.4 แสนตัน), ยูเครนคาดการณ์ว่า ปี 2021/22 นี้จะสามารถส่งออกสินค้าได้อีก 1.5 ล้านตัน ซึ่งจะเป็นข้าวโพดหรือข้าวสาลีได้ ด้วยต้องขนส่งไปลงเรือโดยทางรถไฟ

“ถั่วเหลือง” สัญญาขยับพุ่งขึ้นปิดบวกนำตลาดหลังจากมีข่าวนเข้ามาซื้อถั่วเหลืองเป็นครั้งแรกในรอบ 15 วัน จำนวน 4.9 ล้านบุชเชล(133,400 ตัน) ส่งมอบในปี 2021/22 ซึ่งเป็นไปตามที่นักการค้าคาดการณ์ว่าจีนจะกลับมานำเข้าถั่วเหลืองในปี 2022/23 เพิ่มขึ้น หลังจากพบว่าปริมาณการเลี้ยงสุกรในจีนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

“ข้าวสาลี”   สัญญาปรับตัวลดลงสู่แดนลบด้วยแงขายทำกำไรหลังจากดีดตัวขึ้นแรงไปเมื่อวานนี้ แม้ตลาดจะได้รับผลกระทบจากอุปทานทั่วโลกที่ตึงตัว และข้าวสาลี winter wheat คุณภาพดีของสหรัฐที่มีคุณภาพดีมีไม่มากเท่าปีที่แล้ว กทั้ง spring wheat ยังปลูกไม่ได้พื้นที่มากเท่าค่าเฉลี่ยห้าปีจากฝนที่ตกอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งมีความแห้งแล้งในพื้นที่ปลูกของฝรั่งเศส อินเดีย และแอฟริกา ไม่รวมการปลูกฤดูใหม่และการส่งออกในปัจจุบันของข้าวสาลีเขตทะเลดำ

เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากพุ่งทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดในช่วงซื้อขายที่ 104.465 จุด สูงสุดในรอบ 20ปี ขานรับข่าววุฒิสมาชิกสหรัฐรับรองให้นายเจอโรม พาวเวล เป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวาระที่ 2 ซึ่งมีคาดการณ์ว่าเฟดจะยังดงขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุงขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปีและต้องเริ่มทำเรื่องลดงบดุล (Q/) ในเดือน มิ.ย.วงเงิน 4.75 หมี่นล้านดอลลาร์/เดือนไปเป็นเวลา 3 เดือน จากนั้นจะเพิ่มเป็น 9.5 หมี่นล้านดอลลาร์/ดือน, ช่วงปลายของตลาดค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนตัวลงและปิดลดลงในแดนลบ -0.27%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,196.66 จุด เพิ่มขึ้น +466.36 จุด หรือ +1.47%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,023.89 จุด เพิ่มขึ้น+ 93.81 จุด หรือ +2.39 และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 1 1,805.00 จุด พุ่งขึ้น +434.04 จุด หรือ + 3.82% ดัชนี ตลาดหุ้นบวกยกกระดาน โดยดัชนีดาวโจนส์ขยับขึ้นปิดบวกได้เป็นครั้งแรกในรอบวันทำการ ด้วยมีสัญญานว่าภาวะเงินเอของสหรัฐน่าจะแตะระดับสูงสุดแล้ว

หลังจากดัชนี CPI และ PPI ในเดือน เม.ย.ไม่ขยับขึ้นสูงกว่าเอนก่นหน้า กทั้งวุฒิสภารับรองนายเจอโรม พาวเวล เป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในวาระที่ 2 ทำให้มีมุมมองว่าเฟดจะไม่ขยับขึ้นอัตราดอกเบี้แรงตามที่คาด นักลงทุนจึงกลับเข้าตลาด โดยเทขายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อนำเงินมาลงทุน ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐาลอาย 10 ปีดีดตัวขึ้น 2.929% ส่วนอายุ 30 ปีขยับจี้นที่ 3.079%

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.พุ่งขึ้น +4.36 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 110.49 ดอลลาร์/บาร์เรล น้ำมันดิบ WTI ยับขยับขึ้นปิดบวกและตลอดสัปดาห์นี้ขยับตัวขึ้น 1.7% จากความกังวลต่ออุปทานน้ำมันที่ยังตึงตัวในตลาดโลก, เช่นเดียวกับสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ก.ค.พุงขึ้น +4.1 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 111.55 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 0.7% ในสัปดาห์นี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange Market) ส่งมอบเดือน มิ.ย.ร่วงลง 16.4 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,808.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และตลอดสัปดาห์นี้ทองคำร่วงลง 3.9% ซึ่งเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย.ปีที่แล้ว