บิ๊กหอฯลุ้นวิกฤติยูเครน ยุติใน 3 เดือนฉุดน้ำมันต่ำ 100 - ผวายื้อ 1 ปี GDP ต่ำ 3%

02 เม.ย. 2565 | 05:05 น.

หอการค้าไทยลุ้นสงครามรัสเซีย-ยูเครนคลี่คลาย ห่วงสินค้าแพง เงินเฟ้อพุ่ง ทุบเศรษฐกิจหดโตต่ำกว่า 3% ผวาสงครามเศรษฐกิจลามยุโรปทำซัพพลายเชนโลกหยุดชะงัก เร่งรัฐบาลนำเม็ดเงินจากการขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70% มาใช้ประคองเศรษฐกิจ

 

แม้เวลานี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกได้ปรับตัวลดลงอยู่ระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต้น ๆ ต่อบาร์เรล หลังการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนส่งสัญญาณคืบหน้ามากขึ้น โดยรัสเซียยอมถอยกองกำลังทหารจำนวนมากออกจากเมืองเคียฟ และเมืองอื่น ๆ ขณะที่ยูเครนประกาศพร้อมมีสถานะเป็นกลางมากขึ้น

 

แต่ก็มีประเด็นเขม็งเกลียวขึ้นอีก เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียได้ประกาศให้ประเทศที่ไม่เป็นมิตรที่ซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย จะต้องชำระเงินเป็น สกุลรูเบิล เท่านั้น นัยหนึ่งเพื่อเป็นการตอบโต้ประเทศในยุโรปที่พึ่งพาการนำเข้าก๊าซจากรัสเซียที่ร่วมวงคว่ำบาตรรัสเซียที่บุกโจมตียูเครน ส่งสัญญาณสงครามทางเศรษฐกิจที่ตอบโต้กันระหว่างชาติตะวันตกกับรัสเซียส่อยืดเยื้อ แม้สงครามรัสเซีย-ยูเคนอาจจะจบลงในเร็ว ๆ นี้ก็ตาม

 

บิ๊กหอฯลุ้นวิกฤติยูเครน ยุติใน 3 เดือนฉุดน้ำมันต่ำ 100 - ผวายื้อ 1 ปี GDP ต่ำ 3%

 

นายสนั่น  อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เผยว่า ผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังยืดเยื้อคาดทั้งปีนี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกโดยเฉลี่ยจะอยูที่ระดับ 100 - 120 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ถือว่ายังคงอยู่ในระดับสูงอยู่ จากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ ซึ่งทำให้กระทบต่อภาคการผลิตและการขนส่งพอสมควร

 

ในส่วนของราคาสินค้าและบริการที่ได้รับผลกระทบจากน้ำมัน ยังคงเป็นปัญหาที่ทางหอการค้าไทยให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยหลายส่วนมีต้นทุนที่สูงขึ้น หรือเริ่มขาดแคลนจากการนำเข้าไม่ได้ และอาจประสบภาวะขาดแคลน เช่น สินค้าประเภทธัญพืชต่าง ๆ ทั้งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวสาลี เมล็ดทานตะวัน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะกระทบต้นทุนสินค้าอาหาร ซึ่งต้องเร่งหาสินค้าทดแทนที่เรามี เช่น น้ำมันปาล์มแทนถั่วเหลือง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลังแทนนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ขาด

 

สนั่น  อังอุบลกุล

 

 

สำหรับวัตถุดิบจำพวกสินแร่ต่าง ๆ (Rare Earth)ที่รัสเซียเป็นผู้ผลิตและส่งออกรายสำคัญของโลก อาจจะกระทบต่อการผลิตแผงวงจรไฟฟ้า และการผลิตชิป อาจทำให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องของไทยได้รับผลกระทบ จึงขอให้ภาครัฐและภาคเอกชนเตรียมตัวรับมือในเรื่องดังกล่าวด้วย

 

ส่วนราคาปุ๋ยที่แพงขึ้นจากรัสเซียห้ามส่งออก และหลายประเทศที่เป็นผู้ผลิตและส่งออกแม่ปุ๋ยรายสำคัญต่างระงับส่งออก หรือจำกัดการส่งออกเพื่อความมั่นคงด้านการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารนั้น ในส่วนของไทยมีการนำเข้าปุ๋ยประมาณ 5 ล้านตันต่อปี หากราคาปุ๋ยมีราคาสูงขึ้น เกษตรกรก็จะใส่น้อยลง ผลผลิตก็จะน้อยลงตามไปด้วย หมายถึงรายได้ของเกษตรกรที่จะหายไป

 

ดังนั้น รัฐบาลควรเตรียมแนวทางหรือมีนโยบายในการแก้ไขปัญหานี้ เช่น การหาแหล่งนำเข้าแห่งใหม่จากประเทศอื่น หรือแนวทางการนำปุ๋ยอินทรีย์มาใช้ทดแทน ทั้งนี้ อาจจะต้องมีการปรับสูตรปุ๋ยใหม่ให้เหมาะสมกับช่วงนี้ โดยหอการค้าไทยจะเร่งหารือกับภาครัฐเพื่อเป็นทางออกให้ผู้ประกอบการต่อไป

 

บิ๊กหอฯลุ้นวิกฤติยูเครน ยุติใน 3 เดือนฉุดน้ำมันต่ำ 100 - ผวายื้อ 1 ปี GDP ต่ำ 3%

 

  • ผลกระทบโควิด เสนอเปิดประเทศ

ด้านการท่องเที่ยว – ยอมรับว่าหากสถานการณ์ยืดเยื้ออาจมีผลกระทบ โดยก่อนหน้านี้ เป้าหมายปี 2565 ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ตั้งเป้าไว้ คือ "นักท่องเที่ยวรัสเซีย" มาไทยให้ได้ประมาณ 500,000-700,000 คน หรือเทียบเท่าปี 2563 หากสถานการณ์ยืดเยื้อคงจะทำให้กลุ่มนี้หายไปร้อยละ 50

 

ดังนั้น ไทยเองต้องพยายามดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มใหม่เข้ามาเสริม เช่น ในแถบกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย ที่อยู่ระหว่างฟื้นความสัมพันธ์กัน คาดจะมีนักท่องเที่ยวซาอุฯเข้ามาไทยประมาณ 2 แสนคน ในปีนี้

 

บิ๊กหอฯลุ้นวิกฤติยูเครน ยุติใน 3 เดือนฉุดน้ำมันต่ำ 100 - ผวายื้อ 1 ปี GDP ต่ำ 3%

 

นอกจากนี้ ประเทศไทยควรประกาศให้เป็นโรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นเร็วขึ้นจากเดือนกรกฎาคม ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือเวียดนามที่มีผู้ติดเชื้อโควิด 1-2  แสนคนต่อวัน แต่มีแผนที่จะประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นให้เร็ว  ดังนั้น รัฐบาลไม่ควรกังวลเรื่องนี้มากนัก และควรเร่งทยอยผ่อนคลายการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้

 

  • ประมาณการณ์เศรษฐกิจไทย

นายสนั่น กล่าวว่า คาดหวังสงครามรัสเซีย - ยูเครนจะคลี่คลายไปในทางที่ดีในเร็ววัน เพราะหากยืดเยื้อมากกว่า 1 ปี เศรษฐกิจไทยอาจจะโตต่ำกว่า 3% เงินเฟ้อจะสูงขึ้นจากสินค้าแพง ซึ่งอาจทำให้เกิด ภาวะ Stagflations หรือสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้ ตามที่หลายฝ่ายกังวล

 

กรณีเลวร้ายที่สุด หากความขัดแย้งยืดเยื้อตลอดทั้งปี 2565 และลุกลามไปยังยุโรป ตรงนี้จะกระทบต่อความมั่นคงของพลังงานทั้งโลก และจะส่งผลให้ระบบ Supply Chain ของโลกหยุดชะงัก แน่นอนว่าเศรษฐกิจไทยคงจะทรุดตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  คาดว่ามูลค่าความเสีย 244,750 ล้านบาท GDP เหลือ 2.7 เงินเฟ้อ 4.5 - 5.5% ซึ่งคิดว่ามีความเป็นไปได้น้อย เพราะไม่มีใครได้ประโยชน์หากเกิดกรณีดังกล่าว

 

บิ๊กหอฯลุ้นวิกฤติยูเครน ยุติใน 3 เดือนฉุดน้ำมันต่ำ 100 - ผวายื้อ 1 ปี GDP ต่ำ 3%

 

ส่วนกรณีที่สงครามจบเร็วภายใน 3 เดือน เชื่อว่าในไตรมาส 3 สัญญาณการฟื้นตัวจะเริ่มเห็นได้ชัด โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบจะกลับไปอยู่ในระดับ 70 – 90 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ราคาสินค้าน่าจะปรับตัวลดลง และภาพรวมเงินเฟ้อจะปรับตัวลดลงเช่นกัน มูลค่าความเสียหาย 73,425 ล้านบาท GDP ขยายตัวได้ 3.7%  เงินเฟ้อ 3.0 – 3.5%

 

“หอการค้าไทยมองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข เยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น รัฐบาลต้องมีมาตรการที่ชัดเจนเพื่อไม่ให้อัตราเงินเฟ้อของไทยสูงไปมากกว่านี้ ซึ่งหากไม่สามารถบริหารจัดการได้ อาจส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่า 3% นำไปสู่ภาวะ Stagflation หรือสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมภาพรวมเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น โดยหอการค้าเห็นว่าการที่ ครม. ได้มีการอนุมัติให้มีการขยายเพดานหนี้สาธารณะจาก 60% เป็น 70% จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งรัดการนำเอาเม็ดเงินดังกล่าวมาใช้เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจของประเทศต่อไป”