หมูหน้าฟาร์มโลละร้อย "โรงงานแปรรูป" ระส่ำ ร้องขอนำเข้า

03 ก.พ. 2565 | 04:31 น.

ราคาหมูร่วง สมาคมผู้เลี้ยงสุกรฯ ประกาศปรับลดราคาหน้าฟาร์มเหลือ 100 บาทต่อกิโลฯ หลังตรุษจีนขายฝืด ผู้บริโภคลดซื้อ พ่อค้ากดซ้ำเหลือ 90 บาทต่อโล โรงงานกุนเชียง หมูแผ่น หมูหยอง หมูแท่ง ระงม วัตถุดิบขาด ต้นทุนสูง ร้องขอนำเข้า กรมปศุสัตว์รายงานพบอหิวาต์หมูระบาดแล้ว 18 จังหวัด

วันที่ 11 มกราคม 2565 กรมปศุสัตว์ได้แถลงยอมรับอย่างเป็นทางการ ไทยพบโรคอุบัติใหม่ อหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever : ASF) หลังผลตรวจสอบยืนยันพบเชื้อจากตัวอย่างหมูที่จังหวัดนครปฐม พร้อมประชุมคณะทำงานด้านวิชาการในการป้องกัน ควบคุมและกำจัดโรค ASF ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ควบคุมการเคลื่อนย้ายในรัศมี 5 กิโลเมตรรอบจุดที่พบโรค พร้อมรายงานเรื่องไปยังองค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE)  และมีการจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งผลพวงตามมายังมีเรื่องราวอีกมากมาย

 

วรพจน์ สัจจาวัฒนา

 

นายวรพจน์ สัจจาวัฒนา นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรเพื่อการค้านครราชสีมา เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า วันที่ 1 กุมภาพันธ์  2565 สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติประกาศปรับลดราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มลงอีก 10 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) จาก  110 บาทต่อ กก.เหลือ 100 บาทต่อ กก. ผลพวงจากราคาขายปลีกเนื้อหมูในตลาดสูง ส่งผลผู้บริโภคซื้อลดลง และขายยาก ถือเป็นการปรับตัวตามกลไกตลาดปกติ ตัวอย่างเช่น ผู้ค้าที่เคยชำแหละสุกรวันละ 5 ตัว ขายไม่หมด ก็ลดเหลือ 3 ตัว เป็นต้น ขณะที่ประชาชนหันไปบริโภคอาหารโปรตีนชนิดอื่นทดแทนจากมีราคาถูกกว่า

 

“ก่อนหน้านี้หมูหน้าฟาร์ม 80 บาทต่อกิโลฯ ราคาหมูหน้าเขียงอยู่ที่ 150-160 บาทต่อกิโลฯ ผู้บริโภคก็ยังรับได้ เพราะเนื้อหมูแม้ราคาจะสูง แต่ไม่มีกระดูก แต่ไก่ยังมีกระดูกปน เชื่อว่าราคาเนื้อหมูจะทรง ๆ จะไม่ปรับสูงแล้ว จากราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มลดลงเหลือ 100 บาทต่อกิโล  แต่เกษตรกรขายได้จริง 90 บาทต่อกิโลฯ ต่ำกว่าราคาประกาศ เพราะถูกพ่อค้ากดราคาอีกต่อหนึ่ง”

 

ประกาศราคาสุกร

นายวรพจน์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องการตรวจสต๊อกเนื้อหมูทั่วประเทศมีการกักตุนหรือไม่ ในวงการมองว่าเป็นการค้าปกติ ที่ไปตรวจแล้วก็ไม่เห็นจะเอาผิดอะไรได้ อายัดสินค้าก็ไม่ได้ เพราะแจ้งว่าเป็นการสต๊อก 7 วัน ก็ไม่เข้าข่ายกักตุน จากขนส่งภาคกลางลงไปภาคใต้ และมีการทำตามระเบียบถูกต้องทุกอย่าง  ซึ่งเวลานี้เนื้อหมูก็ขายได้ลดลง ขนาดช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ปกติเนื้อหมูจะขายดี แต่ผู้ประกอบการก็ไม่ได้เพิ่มการเชือดและชำแหละ

 

 

สำหรับการปรับลดราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มลงเหลือ 100 บาทต่อ กก. ราคาเนื้อหมูหน้าเขียงที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่ระดับ 200 บาทเศษต่อ กก. ถ้าใครขายเกินกว่านี้ก็เข้าข่ายเอาเปรียบผู้บริโภค อย่างไรก็ดีในเวลานี้การเพิ่มปริมาณผลผลิตหมูที่ขาดแคลน เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดแบบปัจจุบันทันด่วนคงไม่สามารถทำได้ มีทางเดียวคือการนำเข้าจากต่างประเทศมาทดแทนส่วนที่ขาด ซึ่งเวลานี้โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์สุกรอยากขอนำเข้าวัตถุดิบเนื้อหมูจากต่างประเทศ เพื่อใช้ในการแปรรูปเป็นหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง

 

หมูแผ่น

 

อาทิ กุนเชียง, หมูแผ่น, หมูแท่ง, หมูหยอง เป็นต้น จากที่ผ่านมาราคาหมูที่ใช้เป็นวัตถุดิบในประเทศปรับตัวสูงขึ้นมาก กระทบต้นทุนของโรงงานแปรรูปสูงขึ้นมาก แต่หากจะปรับราคาที่ปลายทางก็ไม่มีคนซื้อ ทำให้ยอดขายลดลง ปกติช่วงตรุษจีนจะขายดีมีคนจับจ่ายซื้อไปเป็นของฝากก็ไม่ซื้อ หรือซื้อลดลง

 

 “หากรัฐบาลอนุญาตให้นำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศได้ ไม่ควรอนุญาตให้นำมาขายปลีกในตลาด เพราะจะกระทบเกษตรกรผู้เลี้ยงในประเทศ ดังนั้นขอให้มีการนำเข้าแบบมีเงื่อนไข”

 

ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กรมปศุสัตว์ ได้รายงานสถานการณ์จังหวัดที่พบโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF)  ประจําวันที่ 29 มกราคม 2565 (ข้อมูลระหว่าง 15-27 ม.ค. 2565) มี 18 จังหวัดที่พบมีการระบาด ได้แก่ กรุงเทพฯ, นครปฐม, สุพรรณบุรี, พังงา, นครศรีธรรมราช, ชุมพร, มหาสารคาม, พัทลุง, แม่ฮ่องสอน, ศรีสะเกษ, ขอนแก่น, ประจวบคีรีขันธ์, บุรีรัมย์, หนองบัวลําภู, ราชบุรี, สงขลา, น่านและเชียงใหม่ ซึ่งจากการรายงานในส่วนของกรุงเทพฯ พบโรคนี้ในหมูแคระที่เป็นสัตว์เลี้ยง

 

เปิด  จังหวัดจ่ายชดเชยค่าสุกรที่ถูกทำลายจาก โรค ASF สูงสุด

 

ส่วนจังหวัดอื่น ๆ อาทิ สุพรรณบุรี พบ 2 จุด, นครศรีธรรมราช 6 จุด, ชุมพร 1 จุด, มหาสารคาม 1 จุด, พัทลุง 2 จุด, แม่ฮ่องสอน 2 จุด, ศรีสะเกษ 1 จุด, ขอนแก่น 1 จุด, บุรีรัมย์ 2 จุด, ประจวบคีรีขันธ์  3 จุด, หนองบัวลําภู 1 จุด, ราชบุรี 1 จุด, น่าน 2 จุด, เชียงใหม่ 2 จุด และสงขลา 1 จุด รวมเกษตรกร (ฟาร์ม) 31 ราย เป็นต้น ปัจจุบันกรมปศุสัตว์ จ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรที่พบโรค ASF แล้วกว่า 1.98 ล้านบาท โดยนครศรีธรรมราชจ่ายเงินเยียวยาสูงสุด 8.83 แสนบาท โดยมีการทำลายสุกร 312 ตัว

 

 

กรมปศุสัตว์ ยังได้รายงานการตรวจห้องเย็นสินค้าปศุสัตว์ ณ วันที่ 30 ม.ค. 2565 พื้นที่เข้าดำเนินการทั้งหมดสะสมระหว่างวันที่ 20-30 ม.ค. 2565 จำนวน 1,197 แห่ง รวม 22.8 ล้านกิโลกรัม

 

หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3754 วันที่ 3 - 5 กุมภาพันธ์ 2565