“ดร.พิมพ์รพี”ห่วงโอมิครอนทำเศรษฐกิจสะดุดหลุดเป้าโต 4%

06 ม.ค. 2565 | 13:10 น.

“ดร.พิมพ์รพี”ห่วงโอมิครอนทำเศรษฐกิจสะดุด หลุดเป้าโต 4% ส่อเจอปัญหาเงินเฟ้อถล่มซ้ำ เชื่อกู้เพิ่ม แนะเร่งจัดเก็บรายได้ตามเป้า หลังพลาดต่อเนื่อง 2 ปี หวั่นหนี้ท่วมประเทศ

ดร.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเป็นห่วงต่อภาวะเศรษฐกิจในปี 2565 หลังเจอพิษโอมิครอน ทำให้มีแนวโน้มว่า การระบาดของโรคโควิด-19 จะเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง จนถึงขั้นแต่ละวันอาจกลับมามีผู้ติดเชื้อหลักหมื่นอีกครั้ง ซึ่งจะกลายเป็นกับดักฉุดเศรษฐกิจไทยให้ดิ่งลึกลงอีกครั้ง 

 

โดยก่อนหน้านี้ สศช.ประมาณการเศรษฐกิจปี 2565 ไว้ว่าน่าจะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 4 แต่ตัวเลขนี้เริ่มไม่แน่นอนแล้ว จากปัจจัยลบด้านโรคระบาดที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น จึงเห็นว่ารัฐบาลควรเร่งออกมาตรการเสริม เพื่อสร้างแรงเหวี่ยงทางเศรษฐกิจให้มีเม็ดเงินหมุนในระบบอย่างเพียงพอ

“สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือราคาสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะเงินเฟ้อ เหมือนกับที่ทั่วโลกกำลังเผชิญหน้ากับปัญหานี้ แม้ว่าปัจจุบันเงินเฟ้อของไทยจะยังไม่เกิน 1.9 % ซึ่งอยู่ในกรอบเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ตั้งไว้ 1-3 % แต่ก็ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ การกำหนดมาตรการทางการคลังและการเงินจึงต้องสอดรับกัน” ดร.พิมพ์รพี กล่าว

 

ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า ในปัจจุบันรัฐบาลกู้เงินไปแล้ว 1.5 ล้านล้านบาท เหลือวงเงินที่ใช้จ่ายได้อีกประมาณ 1.8 แสนล้านบาท จะต้องบริหารจัดการให้ดี เพื่อใช้จ่ายเงินอย่างมีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาอย่างถูกจุด ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่า รัฐอาจจำเป็นต้องกู้เพิ่มอีก โดยต้องพิจารณาอย่างรอบด้านอย่าให้เกิดปัญหาหนี้ท่วมประเทศ เพราะหากพิจารณาจากการจัดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 วงเงินกว่า 3.185 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 2.74 ตั้งงบขาดดุล 695,000 ล้านบาท ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 0.71 

“เรียกว่าแทบไม่มีนัยยะสำคัญกับการลดลงของงบขาดดุล อีกทั้งสาเหตุที่ลดลง ก็เพราะตั้งกู้ขาดดุลเกือบเต็มเพดานที่กฎหมายกำหนดแล้ว สิ่งที่ต้องเร่งรัดจัดการให้ได้คือ การเก็บรายได้ต้องเข้าเป้า หลังจากที่หลุดเป้ามาสองปีต่อเนื่อง อย่าให้เกิดปัญหาต้องออก พ.ร.ก.กู้เงินมาปิดหีบงบประมาณ”