“พิมพ์รพี”แนะวิธีสู้โควิดเปลี่ยนจากโหมดกลัวโรคเป็นเผชิญหน้ากับโรค

11 ต.ค. 2564 | 11:58 น.

“ดร.พิมพ์รพี”ชี้ไทยไม่เคยติดเชื้อต่ำกว่าหมื่น เหตุไม่รวมยอด ATK แนะวิธีสู่้โควิดรัฐเร่งปรับแนวคิด เปลี่ยนวิธีสื่อสารกับประชาชนจากโหมดกลัวโรค เป็นเผชิญหน้ากับโรค ระดมฉีดวัคซีนตามเป้า ลดป่วยรุนแรง-เสียชีวิต เดินหน้าเปิดประเทศควบคู่คุมโรค

 

ดร.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า ตลอดเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่เคยมีผู้ติดเชื้อต่ำกว่าหนึ่งหมื่นคน เพราะในระบบไม่ได้รวมผู้ติดเชื้อจากการตรวจ ATK ไว้ด้วย ดังนั้นจึงไม่ควรส่งสัญญาณว่าสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว แต่ควรปรับแนวคิดและเตรียมยุทธศาสตร์รองรับ ถึงการปรับตัวในการเผชิญหน้ากับโรคจะสอดรับกับสถานการณ์และอนาคตมากกว่า เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่าโรคนี้จะแพร่ระบาดอีกยาวนานแค่ไหน จึงจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น เหมือนไข้หวัด

 

“สิ่งที่ต้องสื่อสารกับประชาชนคือการทำความเข้าใจว่า เมื่อมีการฉีดวัคซีนได้ตามเป้าหมายโรคนี้ก็ไม่ได้น่ากลัว เป็นโรคที่รักษาได้ ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันที่ปลอดภัย จัดงบประมาณที่เพียงพอต่อการจัดหาวัคซีน มีแผนที่ดีในการควบคุมโรค และระบบสาธารณสุขที่จะต้องไม่ปล่อยให้เกิดเหตุรอเตียง รอตาย เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีตอีก”

 

ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การปรับตัวเป็นเรื่องจำเป็นที่สุด ที่ภาครัฐต้องเร่งรณรงค์ให้ประชาชนเปลี่ยนโหมดกลัวโรค สู่การเผชิญหน้ากับโรคอย่างรู้เท่าทัน ก็จะช่วยกันทำลายห่วงโซ่ของการแพร่เชื้อได้ในระดับหนึ่ง

 

“การแพร่ระบาดที่ยอดพุ่งขึ้นในส่วนของสี่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนว่า แผนคุมโรคของรัฐบาลยังมีจุดบกพร่อง การฉีดวัคซีนยังไม่เพียงพอ การทำความเข้าใจกับประชาชนยังมีน้อย เรื่องเหล่านี้ต้องเร่งอุดรูรั่ว ขณะที่การเปิดประเทศที่นายกรัฐมนตรีพูดถึง ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 14 ตุลาคมนี้ ก็ควรมีแผนที่ชัดเจนว่าจะเดินหน้าอย่างไร เพราะประเทศไทยไม่สามารถปิดอย่างไม่มีกำหนดได้” ดร.พิมพ์รพี ระบุ