EV โต 10 เท่าใน 10 ปี-SHARGE ตั้งเป้าเปิด EV Charging 1,200 หัวชาร์จทั่วไทยปี 65

23 พ.ย. 2564 | 07:28 น.

SHARGE คาดภายใน 10 ปี ธุรกิจรถ EV โตพุ่ง 10 เท่า ตั้งเป้าเปิด EV Charging กว่า 1,200 หัวชาร์จทั่วประเทศปี 65 เชื่อปี 2573 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่เป็น EV ทั้งหมด

นายพีระภัทร ศิริจันทโรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE)เปิดเผยว่า จากแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) ที่จะเติบโตไปในทิศทางเดียวกับแนวโน้มการเติบโตของ EV ในประเทศไทย โดยคาดการณ์ว่าภายในปี 2574 จะเติบโตขึ้น 10 เท่า เนื่องจากภาครัฐเข้ามาสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น 
ทั้งนี้ จะเห็นได้จากข้อมูลของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ เรื่องมาตรการส่งเสริมการนำเข้า EV จากต่างประเทศซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 65 จะทำให้ราคารถยนต์นำเข้าที่นำมาจำหน่ายในประเทศไทยมีราคาที่ถูกลงมาก โดยประเด็นนี้มองว่าเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญให้ผู้ใช้รถเข้าถึง EV ได้ง่ายขึ้น 

ซึ่งเมื่อเกิดความต้องการใช้ EV มากขึ้น ธุรกิจเกี่ยวกับการชาร์จ EV ก็เติบโตควบคู่กันไป จะเกิดการลงทุนพัฒนาสถานีชาร์จมากขึ้น ทั้งหมดนี้จะสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายภายในปี 2573 ที่จะมียอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ เป็น EV ทั้งหมด
นายพีระภัทร กล่าวต่อไปว่า จากแนวโน้มการเติบโตของ EV ในประเทศไทย บริษัทจึงได้ตั้งเป้าในการเปิดให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าทั้งกระแสสลับ (AC Charging) และกระแสตรง (DC Charging) เพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าไว้ที่ 200 สถานี หรือราว 1,200 หัวชาร์จ 
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบริษัทมีจุดให้บริการ EV Charging ใน 7 สถานี รวมกว่า 50 หัวชาร์จ ในทำเลธุรกิจ ได้แก่ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี, เซ็นทรัล ชิดลม, โครงการ T77, สิงห์ คอมเพล็กซ์, ไบเทค บางนา, ทรูดิจิทัล พาร์ค และอาคารฮักส์ 

นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดเพิ่มเติมอีก 6 สถานีภายในธันวาคมนี้ โดยเมื่อรวมกับแผนการเปิดสถานีเพิ่มเติมในปี 2565 จะส่งผลทำให้บริษัทมีสถานีให้บริการถึง 213 สถานีหรือกว่า 1,200 หัวจ่ายได้ภายในปีหน้า

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดบริษัทได้ดำเนินการร่วมกับพันธมิตร 4 กลุ่มใหญ่ เพื่อเพิ่มขอบเขตบริการไปสู่การเปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้ากระแสตรงเพื่อให้บริการครอบคลุมไปสู่ผู้ใช้ EV ทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยพันธมิตรที่เข้ามาร่วมมือในขณะนี้มาจากองค์กรขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในด้านทำเลที่ผู้ใช้ EV เข้าถึงง่าย ประกอบด้วย 
1. บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ,2. พันธมิตรกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ,3. บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) ,4.พันธมิตรกลุ่มห้างค้าปลีกอื่นๆ โดยจากการร่วมมือกับพันธมิตรทั้ง 4 กลุ่มดังกล่าวทำให้บริษัทมีแผนจะเปิดให้บริการสถานีชาร์จภายในปีนี้อีก 6 สถานี
สำหรับตความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยสร้าง EV Charging Ecosystem อย่างครบด้าน และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากพันธมิตรแต่ละรายมีสถานที่ให้พัฒนาเป็นสถานีชาร์จ EV ในทำเลที่แตกต่างกัน ได้แก่ 

10 ปี ธุรกิจรถ EV โตพุ่ง 10 เท่า
1.บมจ. บางจาก ซึ่งถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจและผู้ถือหุ้นของบริษัทที่จะมาร่วมพัฒนาสถานีชาร์จ EV ชาร์จเร็ว (High Power Charging Station) ที่มีเครื่องชาร์จกำลังชาร์จสูง 120 กิโลวัตต์ ในทำเลกรุงเทพ โดยเฉพาะในย่านใจกลางธุรกิจ ถ.สุขุทวิท ถ.พัฒนาการ และ ถ.ศรีนครินทร์ โดยสถานีแรกที่จะพัฒนาร่วมกันจะอยู่ภายในสถานีบริการน้ำมันบากจาก ซ.สุขุมวิท 62 ซึ่งมีแผนจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2564 นี้
2.พันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมหัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยว กลุ่มผู้ประกอบการในหัวเมืองต่างๆเป็นอีกหนึ่งพันธมิตรที่จะร่วมพัฒนาสถานีชาร์จ EV แบบ High Power Charging Station ในต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยว เพื่อรองรับการใช้งานของลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยขณะนี้มีสถานีให้บริการแล้วที่โรงแรม The Standard หัวหิน เป็นสถานีนำร่อง
3.บมจ. สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ เป็นพันธมิตรที่มีจุดเด่นที่สำคัญคือคอมมูนิตีมอลล์และแหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำกระจายอยู่ในทำเลศักยภาพ ซึ่งการร่วมพัฒนาสถานีชาร์จ EV สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์จะเป็นการชาร์จแบบปกติ ให้บริการที่ เจ อเวนิว ทองหล่อ, เอกมัย พาวเวอร์ เซ็นเตอร์, ลา วิลล่า อารีย์ และ มาร์เก็ตเพลส กรุงเทพกรีฑา 
ซึ่งทุกทำเลถือว่ามีศักยภาพสูงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าที่มาช็อปปิ้งหรือรับประทานอาหารที่ปกติจะใช้เวลาตามแหล่งไลฟ์สไตล์เหล่านี้มากกว่า 1 ชั่วโมง โดยจำนวนสถานีร่วมที่กับสยามฟิวเจอร์จะเปิดให้บริการภายในเดือนธันวาคมนี้ทุกสถานี
4.กลุ่มพันธมิตรห้างค้าปลีกอื่นๆ กลุ่มนี้จะให้บริการสถานีชาร์จ EV แบบ High Power Charging Station เพราะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ลูกค้าไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าในใจกลางเมืองที่ต้องการที่ชาร์จขณะเดินช็อปปิ้งให้ครอบคลุมมากขึ้น