”กรมขนส่ง” คลายล็อกทำใบขับขี่-ภาษีรถ เช็กเงื่อนไขที่นี่

02 ก.ย. 2564 | 06:04 น.

“กรมขนส่ง” ผ่อนคลายล็อกดาวน์เปิดทำใบขับขี่-ภาษีรถ ย้ำไม่มีอบรมในสำนักงาน เผยผู้เคยจองคิวแล้วตั้งแต่ 16 เม.ย.64 ได้สิทธิจองคิวใหม่ พร้อมขยายเวลาใบขับขี่หมดอายุถึงสิ้นปีนี้

นายจิรุตม์  วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ผ่อนคลายล็อกดาวน์ให้สามารถใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใดๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากได้ โดยให้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด กรมการขนส่งทางบก จึงผ่อนคลายให้สำนักงานขนส่งทุกแห่งเปิดให้บริการด้านใบอนุญาตขับรถ (ใบขับขี่)และผู้ประจำรถกระบวนงานที่ไม่มีการอบรมในสำนักงาน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยต้องจองคิวล่วงหน้าเพื่อเข้ารับบริการผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ซึ่งการคุมเข้มมาตรการงดการอบรมที่สำนักงานขนส่งสำหรับการขอรับและต่ออายุใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกทุกชนิดนั้น เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อ 

 


ขณะเดียวกันสำนักงานขนส่งในจังหวัดใดที่ต้องปฏิบัติตามประกาศจังหวัดหรือประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด สามารถกำหนดมาตรการเฉพาะแห่งได้ตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตามผู้ที่ต้องการต่ออายุใบอนุญาตขับรถและใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถ สามารถเข้าอบรมผ่านระบบ e-Learning ได้ทาง www.dlt-elearning.com แทนการเข้าอบรมในสำนักงานได้ 

”กรมขนส่ง” คลายล็อกทำใบขับขี่-ภาษีรถ เช็กเงื่อนไขที่นี่


 

ส่วนการให้บริการของสำนักงานขนส่งทุกแห่งต้องดำเนินการตามมาตรการด้านสาธารณสุข (D-M-H-T-T-A) เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด โดยจำกัดจำนวนผู้เข้ารับบริการในแต่ละวันด้วยการจองคิวล่วงหน้าในระบบจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th สำหรับผู้ที่มีคิวตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2564 เป็นต้นไป สามารถมาดำเนินการได้ตามวันและเวลาที่จองคิวไว้ ส่วนผู้ที่เคยจองคิวไว้แล้วในระหว่างปิดสำนักงาน ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2564 ให้สำนักงานขนส่งดำเนินการเปิดระบบจองคิวให้กับผู้ที่จองคิวไว้เดิม โดยเมื่อเข้าสู่ระบบการจองคิวจะปรากฏคำว่า “(ได้สิทธิจองใหม่)” ซึ่งจะได้รับสิทธิตามลำดับต่อไป 

 

 

สำหรับมาตรการเยียวยา สำหรับผู้ที่ใบอนุญาตขับรถและใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถสิ้นอายุเกิน 1 ปี หรือ 3 ปี ระหว่างวันที่ 10 เมษายน 2564 - 31 ธันวาคม 2564 ประกอบด้วย 1.ใบอนุญาตขับรถ ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ สิ้นอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ได้รับการยกเว้นการทดสอบข้อเขียน 2.ใบอนุญาตขับรถ ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ สิ้นอายุเกิน 3 ปี ได้รับการยกเว้นการทดสอบขับรถ กรณีเป็นใบอนุญาตขับรถชนิดส่วนบุคคลชั่วคราว สิ้นอายุเกินกว่า 3 ปี ให้ผ่านการอบรมตามหลักสูตรในวิชาที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดไว้ จากเดิมอบรมไม่น้อยกว่า 5 ชั่วโมง ได้รับสิทธิเยียวยาเป็น อบรมในหลักสูตรใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง โดยอบรมผ่านระบบ e-Learning ได้ 3. ใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถ ตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก สิ้นอายุเกิน 3 ปี ได้รับการยกเว้นการทดสอบขับรถเท่านั้น ส่วนเอกสารประกอบคำขอรับหรือต่ออายุใบอนุญาตขับรถหรือผู้ประจำรถ เช่น ใบรับรองแพทย์ หนังสือรับรองการผ่านการอบรมและทดสอบ คำขอที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จภายใน 90 วัน ผลผ่านการอบรมจากระบบ e-Learning ที่สิ้นอายุ อนุโลมให้ใช้ประกอบการดำเนินการด้านใบอนุญาตขับรถได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ผ่อนผันการบังคับใช้กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง กับผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถและใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถที่สิ้นอายุแล้ว ยังสามารถใช้แสดงตนได้ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564

ทั้งนี้การให้บริการด้านทะเบียนและภาษีรถ ณ สำนักงานขนส่ง เปิดให้บริการปกติ โดยการดำเนินการทางทะเบียนที่กฎหมายกำหนดระยะเวลาในการดำเนินการไว้ตรงกับช่วงเวลางดให้บริการ เช่น โอนรถ แจ้งย้ายรถ การเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญ หรือแจ้งเลิกใช้รถ เป็นต้น กรมการขนส่งทางบกได้ขยายระยะเวลาให้สามารถมาดำเนินการได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 โดยเจ้าของรถไม่ต้องชำระค่าปรับ ในส่วนของการตรวจสภาพรถ ให้ยกเว้นการตรวจสภาพรถยนต์ที่ใช้รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (รถแท็กซี่) ที่ถึงกำหนดตรวจสภาพเพื่อเสียภาษีประจำปี หรือครบกำหนดระยะเวลาการตรวจสภาพตามรอบ 3 เดือน หรือ 4 เดือน หรือ 6 เดือน แล้วแต่กรณี ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 แต่ไม่รวมถึงกรณีการตรวจสภาพเพื่อขยายอายุการใช้งานจาก 9 ปี เป็น 12 ปี ซึ่งต้องนำรถเข้าตรวจสภาพตามเดิม ทั้งนี้ ยังคง “งดการออกหน่วยเคลื่อนที่” ด้านทะเบียนและภาษีรถ และด้านใบอนุญาตขับรถ ณ หน่วยบริการเคลื่อนที่รับชำระภาษีรถประจำปีที่ห้างสรรพสินค้า หรือแหล่งชุมชน (Shop Thru for Tax) หรือศูนย์บริการร่วม ส่วนในเขตจังหวัดอื่นสามารถให้บริการได้ตามปกติทุกช่องทาง โดยให้ถือปฏิบัติตามตามประกาศจังหวัดหรือประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด