รู้จัก “พืชกระท่อม" ใหม่ สร้างรายได้มากกว่ายางพารา  10 เท่า

14 ส.ค. 2564 | 11:08 น.

อึ้ง “กระท่อม” กิโลกรัมละ 1,000 บาท “ชูวิทย์” ระบุ สร้างรายได้มากกว่ายางพารา  10 เท่า ถ้าปลูก 1 ต้น มีรายได้เดือนละ 3,000 บาท เสนอให้แต่ละบ้าน ปลูกคนละ 1 ต้น มั่นใจ รายได้มากกว่า มันสำปะหลัง ข้าว แน่นอน รู้ก่อน คิดก่อน รวยก่อน

ชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ

 

นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ  โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. .... เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ปัจจุบันใบกระท่อมก็มีแอบซื้อขายกันอยู่แล้ว ซึ่งไม่ได้มีอันตราย เป็นยาขยัน กินแล้วทำงานทั้งวัน กระท่อมจะปลดล็อกจากบัญชียาเสพติด ในวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ปลดล็อกสามารถปลูกได้ไม่ผิดกฎหมาย ชื้อขายได้ไม่ผิดกฎหมาย

 

ส่วน พ.ร.บ. พืชกระท่อม พ.ศ. .... ทางคณะจะให้จบในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ แล้วจะนำเข้าสภา คาดว่าจะเสร็จสิ้นตามกระบวนการภายเดือนกันยายนนี้ ซึ่งในการทำ พ.ร.บ. ไว้ป้องกันเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ห้ามรับประทาน ถ้าจะเอาใบกระท่อมไปประกอบเป็นเครื่องดื่มต้องขอใบอนุญาตประกอบการเสียค่าใช้จ่าย 1,000 บาท ต่ออายุ 1 ปี เสร็จแล้วจะทำให้ พ.ร.บ.นี้ทำให้เกษตรกรมีเงิน มีรายได้ ปลูกที่ไหนก็ขายได้

 

ต่อไปเชื่อว่าจะมีโรงงานผลิตน้ำดื่มใบกระท่อม หรือ พวกเครื่องดื่มชูกำลัง นำใบกระท่อมไปเป็นส่วนผสมกระท่อม เกษตรกรก็สามารถที่จะขายได้ ที่สำคัญกฎหมายนี้ กำหนดไว้ 5 ปี ห้ามนำเข้าส่งออกใบกระท่อม เรียกว่าให้เกษตรกรไทยปลูก ก็ให้เกษตรกรขายก่อน ที่เขียนห้ามไว้ เพราะกลัวคนรวยทำ และเกษตรกรไม่ได้ประโยชน์ แต่กัญชา จะยากกว่า คือ จะต้องมีที่ขายก่อน ถึงจะอนุญาตให้ปลูก

ใบกระท่อม

 

นายชูวิทย์  กล่าวว่า หากไม่ห้ามนำเข้าเกรงว่าจะมีกระท่อม จากประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ทะลักเข้าไทยแน่นอน แล้วคนไทยจะไปซื้อใบมารับประทาน ตอนนี้ทราบข่าวว่ามีการแอบนำเข้ามาเป็นกระสอบๆ ตามแนวชายแดน แต่ถ้ากันไว้ เงินก็จะไม่ไหลออก เรียกว่า ปลูกเอง ใช้เอง หากกำหนดให้ปลูกครอบครัวละ 1 ไร่ จะมีรายได้มากกว่าปลูกยาง มันสำปะหลัง ข้าว แน่นอน

 

ในอนาคต พืชตัวนี้ก็จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะสร้างรายได้ให้กับพ่อแม่พี่น้อง วันนี้ผมจึงรีบมาแจ้งข่าวเพราะผมอยากให้พี่น้องได้ประโยชน์ จากการปลูกกระท่อม รู้ก่อน คิดก่อน รวยก่อน ถ้าปลูกกระท่อม 1 ไร่ จะมีรายได้มากกว่าปลูกยางพารา 10 เท่า  ขณะนี้ยางพารากิโลกรัมละไม่เกิน 40 บาท  แต่ กระท่อม ราคากิโลกรัมละ 1,000 บาท  หรือมากกว่า ดังนั้น ถ้าปลูก 1 ต้นจะมีรายได้เดือนละประมาณ 3,000 บาท

 

อย่างไรก็ดีต้องควบคุมการปลูก เพราะหากปลูกมากเกินไป เห็นว่าจะได้ดี แห่กันปลูก สุดท้ายราคาตกเพราะมีเยอะ การทำอะไรต้องศึกษากลไกการตลาดควบคู่ด้วย