ฉลุย! มติสภาปลดล็อกพืชกระท่อมพ้นบัญชียาเสพติด

27 ม.ค. 2564 | 06:40 น.

ฉลุย มติ ส.ส. 319 เสียง ปลดล็อกพืชกระท่อม ยกเลิกจากบัญชียาเสพติด มีผลบังคับใช้ 90 วันหลังประกาศในราชกิจจาฯ ให้เวลาร่างกฎหมายรองต่อ

27 ม.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภา เป็นประธานในการประชุม เพื่อพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธาน กมธ. กล่าวรายงานว่า ตามที่ประชุมสภาได้พิจารณารับหลักการ ร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ บัดนี้ กมธ.ได้พิจารณาเสร็จแล้ว

 

ทั้งนี้ กมธ.ได้ใช้ ร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นหลักในการพิจารณา และมีข้อสังเกตท้ายรายงานเพื่อให้สภาพิจารณา คือ

 

1.ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้มีความมุ่งหมายเพื่อยกเลิกพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดให้โทษอีกต่อไป ประชาชนผู้บริโภคพืชกระท่อมจะบริโภคได้โดยไม่มีความผิดและไม่ต้องรับโทษตามกฎหมาย เว้นแต่จะนำไปผสมสารเสพติดชนิดอื่น จะทำให้ผู้บริโภคจะมีความรู้สึกที่ดีได้รับการยอมรับจากสังคมว่าไม่ใช่ผู้ติดยาเสพติด 

 

2.ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ จะบังคับใช้ภายใน 90 วันหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่ง กมธ.แก้ไขให้เหมาะสมจากเดิมที่กำหนดไว้ 180 วัน โดยการยกเลิกโทษพืชกระท่อมจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่ใช้ในชีวิตประจำวันตามวิถีดั้งเดิม ลดภาระงานงบประมาณของรัฐในการจับกุมและดำเนินคดี รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมพืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศ เพราะพืชกระท่อมคือสมุนไพรที่มีความหลากหลายทางชีวะภาพ มีศักยภาพที่ควรนำไปใช้ประโยชน์ให้เกิดกับประเทศโดยเฉพาะเกษตรกร จึงควรผลักดันร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลโดยเร็ว

3.เมื่อ ร่างพ.ร.บ.ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ประชาชนผู้นิยมบริโภคพืชกระท่อมอาจจะเข้าใจผิดว่ากฎหมายมีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน อาจเกิดการใช้พืชกระท่อมอย่างเสรีทันทีและอาจถูกจับกุมในช่วงที่กฎหมายยังไม่มีผล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ

 

4.ระยะเวลาใช้บังคับของ ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ เพื่อให้มีการร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม ขึ้นมาอีกฉบับหนึ่งเพื่อให้มีมาตรการควบคุมการใช้พืชกระท่อม หลังจากยกเลิกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดแล้ว โดย ร่างพ.ร.บ.พืชกระท่อม กมธ.เห็นว่าไม่ควรมีข้อจำกัด เหมือนที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 เพราะพืชกระท่อมเป็นยาสมุนไพรที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ แต่กำหนดไม่ให้เกิดการใช้ในเด็กแล้วเยาวชน และการปลูกที่มีความเท่าเทียมกัน เป็นต้น ส่งเสริมด้านการแปรรูปให้เกิดประโยชน์ ผลิตยาสมุนไพรแก้โรคต่างๆ ให้เป็นธุรกิจที่ส่งออกได้ทั่วโลก เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ

อย่างไรก็ดี สมาชิกรัฐสภามีการอภิปรายอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะในมาตรา 2 ประเด็นการกำหนดเวลาบังคับใช้กฎหมายภายหลังการประกาศในราชกิจจานุเบกษา 90 วัน โดยมีสมาชิกบางส่วนอยากให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ในทันที

 

โดยนายสมศักดิ์ ได้ชี้แจงเรื่องนี้ว่า การกำหนดระยะเวลา 90 เพื่อให้เวลากับการร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม ที่เป็นกฎหมายรองในการควบคุมการใช้พืชกระท่อม ไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าถึง รวมถึงไม่นำไปใช้ผิดประเภทหรือนำไปผสมกับยาเสพติดชนิดอื่น ซึ่งที่ประชุมเห็นด้วยกับการแก้ไขของ กมธ. ให้กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้  90 วันหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาด้วยคะแนน 326 ต่อ 5 เสียง และที่ประชุมลงมติเห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่...)พ.ศ.... ด้วยคะแนน 319 ต่อ 7 เสียง และให้ดำเนินตามกระบวนการเพื่อออกเป็นกฎหมายต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"สมศักดิ์" เชื่อ กม.ปลดล็อกกระท่อมผ่านสภาต้นปีหน้า

ลุ้น 24 มิ.ย.ปลดล็อกกระท่อมพ้นยาเสพติด

ปลดล็อค'กัญชา-กัญชง-กระท่อม'เข้าสภาสัปดาห์นี้

ครม.กรุยทางจ่อใช้“ใบกระท่อม”เชิงพาณิชย์

ครม.ปลดล็อก"กัญชง" จากยาเสพติด เป็นพืชเศรษฐกิจ