โต้ "จิราพร" ปมประเด็นลาออก

ควันหลงการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ภญ.จิราพรไขก๊อกลาออกจากคณะกรรมการ  เผยไม่มีการลงมติในที่ประชุม  ด้านแหล่งข่าวกระทรวงอุตสาหกรรมชี้ไม่มีการยกมือ และไม่มีการคัดค้าน  ระบุภญ.จิราพรเดินไปที่ฝ่ายเลขานุการถึงสองรอบ

                รานงานข่าวระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.40 น. เฟซบุ๊กของ รองศาสตราจารย์ ดร. เภสัชกรหญิงจิราพร  ลิ้มปานานนท์  กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ  คณะกรรมการวัตถุอันตราย ได้มีการเผยแพร่หนังสือขอลาออก  โดยเรียนถึงคณะกรรมการวัตถุอันตราย  ซึ่งเนื้อความระบุว่า ดิฉันได้พิจารณาแล้วเห็นว่ากลไกลคณะกรรมการวัตถุอันตรายอันเป็นกลไกลที่สำคัญเชิงนโยบายในการตัดสินใจควบคุมวัตถุอันตราย  เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและสังคม  แต่จากการประชุมพิจารณาในเรื่องวัตถุอันตรายทางการเกษตรกรรมที่ผ่านมา  กลไกลดังกล่าวไม่สามารถทำให้เกิดการตัดสินใจเชิงนโยบายที่ดีได้

                ในการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย  เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 ดิฉันขอยืนยันให้มีการยกเลิกการใช้พาราควอตคลอร์ไพริฟอส  และไกรโฟเซส  ซึ่งเป็นจุดยืนของดิฉันมาโดยตลอด  และหวังว่าคณะกรรมการวัตถุอันตรายจะได้ยืนยันตามมติของการประชุมวันที่ 22 ตุลาคม  เพื่อการคุ้มครองสุขภาพของเกษตรกรและผู้บริโภคด้วย  ดิฉันจึงขอลาออกจากการเป็นกรรมการนับตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2562

ขณะที่ก่อนหน้านั้นวันที่ 27 พฤศจิกายน 82 เวลาประมาณ 21.45 น. เฟซบุ๊กของรองศาสตราจารย์ ดร. เภสัชกรหญิงจิราพร  ลิ้มปานานนท์  ได้มีการเผยแพร่ข้อความที่ระบุว่า  ขอลาออกจากคณะกรรมการวัตถุอันตราย และขอแย้งการแถลงข่าวของท่านประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย 

1.ขอแย้งว่าไม่ได้มีการลงมติอย่างชัดเจน ว่าผู้ใดเห็นด้วยหรือไม่ในแต่ละประเด็น แต่เป็นภาวะจำยอมในการรับมติ จึงไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็น มติเอกฉันท์ เพราะหากพิจารณาในการอภิปรายจะพบว่า ดิฉันยืนยันชัดเจนมาโดยตลอดในการแบนสารทั้งสาม และยืนยันให้คงมติวันที่ 22 ต.ค. 

2.ขอแย้งการแถลงข่าวที่ว่า ไกลโฟเสตไม่เป็นอันตราย เพราะกรรมการรวมทั้งดิฉันได้อภิปรายถึงผลเสียต่อสุขภาพและไม่สามารถจะจัดการความเสี่ยงต่อผู้บริโภค จนพบปนเปื้อนทั้งในสิ่งแวดล้อม ผัก ผลไม้ และน้ำนมแม่

ทั้งนี้  มีผู้ที่ให้สนใจเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อโพสดังกล่าวกว่า 225 รายการ  และมีการแชร์ไป 675 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม  แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวแสดงความคิดเห็น ว่า ไม่ได้มีการลงมติแต่ท่านจิราพร ในห้องประชุมยังช่วยกันร่างมติ  โดยท่านเองมีการหารือและเดินไปตรงฝ่ายเลขานุการตอนพิมพ์มติ ตอนที่พิมพ์เสร็จขึ้นมาหลังจากช่วยกันปรับ ท่านประธานได้ถามชัดว่าเห็นด้วยไหม  ทุกคนไม่มีใครคัดค้าน  เพราะในห้องประชุมใครอยากให้ปรับตรงไหนได้มีการหารือกันตลอด ยกเว้นเพียงแต่ มีอยู่ 4 ท่านที่ต้องการให้ยืดระยะเวลาจาก 6 เดือนเป็น 1 ปีตามที่ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ

“ในการประชุมไม่มีการยกมือ  ไม่มีคนคัดค้านอย่างแน่นอน  โดยที่ท่านจิราพรได้เดินไปที่ฝ่ายเลขานุการถึงสองรอบ”