กัมพูชาอ้าง “3 เพื่อ” ตั้งเกตเวย์คุมการใช้งานอินเทอร์เน็ต
กัมพูชาเดินตามรอยจีน ใช้ระบบ “เกตเวย์” ควบคุมและติดตามการใช้งานอินเทอร์เน็ตของประชาชน นักเคลื่อนไหวหวั่นเป็นการสอดแนมและลิดรอนเสรีภาพพื้นฐาน
รัฐบาลกัมพูชา ออก พระราชกฤษฎีกาย่อย ลงนามโดย สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรี วานนี้ (17 ก.พ.) ระบุว่า อินเทอร์เน็ตเกตเวย์แห่งชาติ (เอ็นไอจี) จะควบคุมและติดตามการใช้งานอินเทอร์เน็ตตลอดจนการเชื่อมต่อเว็บไซต์ แบบเดียวกับระบบเกตเวย์ที่ใช้ในประเทศจีน ด้วยเหตุผล 3 ประการ คือ เพื่อปรับปรุงการจัดเก็บรายได้ของประเทศ เพื่อปกป้องความมั่นคงแห่งชาติ และเพื่อรักษาความเป็นระเบียบของสังคม วัฒนธรรมและประเพณี
กฎหมายย่อยความยาว 11 หน้าฉบับนี้ สั่งการให้ผู้ดำเนินการเกตเวย์ทำงานร่วมกับทางการกัมพูชา เพื่อดำเนินการปิดกั้นและตัดการเชื่อมต่อเครือข่ายใดๆ ที่เห็นว่าขัดต่อเป้าหมายเหล่านี้ หรือละเมิดศีลธรรม, วัฒนธรรม, ประเพณี และขนบธรรมเนียม ทั้งนี้ ผู้ดำเนินการเกตเวย์จะต้องส่งรายงานเกี่ยวกับการจราจรทางอินเทอร์เน็ตต่อเจ้าหน้าที่อย่างสม่ำเสมอ
สื่อต่างประเทศระบุว่า รัฐบาลกัมพูชาจะสามารถเข้าควบคุมชีวิตออนไลน์ของประชาชนในประเทศเกือบเบ็ดเสร็จด้วยการจัดตั้งอินเทอร์เน็ตเกตเวย์แห่งชาติแบบเดียวกับ "เกรตไฟร์วอลล์" ของรัฐบาลจีน ซึ่งนักเคลื่อนไหวชี้ว่า จะเป็นการสกัดกั้นเสรีภาพในการแสดงออกและปิดกั้นเนื้อหาทางออนไลน์
ความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ของรัฐบาลกัมพูชายังเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของประชาคมระหว่างประเทศก่อนหน้านี้เรื่องที่รัฐบาลของสมเด็จฮุนเซน มีพฤติกรรมข่มขู่คุกคามพรรคการเมืองฝ่ายค้านและลิดรอนการแสดงออกทางความคิดเห็นของภาคประชาสังคม ทำให้พรรครัฐบาลมีอำนาจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองก็ถูกดำเนินคดีและคุมขังเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ
มีความวิตกว่า รัฐบาลกัมพูชาซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับจีนทางเศรษฐกิจ จะนำอินเทอร์เน็ตเกตเวย์มาใช้ในการกำราบฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง และอาจจะใช้ระบบดังกล่าวในการสอดแนมและป้องกันพลเมืองจากการเข้าถึงเครือข่ายสังคมออนไลน์ผ่านประตูทางผ่านทางเดียว แบบเดียวกับระบบ "เกรตไฟร์วอลล์" ของรัฐบาลจีน แต่พาย สีพัน โฆษกรัฐบาลกัมพูชา ปฏิเสธข้อกังวลนี้ โดยอ้างว่าระบบเกตเวย์ฯ จะป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ และส่งเสริมผลประโยชน์ของชาติมากกว่า
ทั้งนี้ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในกัมพูชามีเวลา 1 ปีในการเชื่อมต่อสัญญาณของตนเองเข้ากับระบบเกตเวย์ฯของภาครัฐ ในขณะเดียวกันก็ต้องเตรียมความพร้อมในส่วนของผู้ใช้บริการ โดยสมาชิกผู้ใช้บริการของบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในกัมพูชาต้องกรอกแบบฟอร์มทางออนไลน์ยืนยันตัวตน ผู้ให้บริการฯที่ไม่เชื่อมต่อเครือข่ายเข้าระบบตามเวลาที่กำหนดอาจถูกระงับใบอนุญาตประกอบการและถูกอายัดบัญชีธนาคาร
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา กัมพูชามีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นมาก สถิติของรัฐบาลเผยว่า จากที่เคยมีผู้ใช้งาน 5 ล้านรายในปี 2557 เพิ่มเป็น 20.3 ล้านรายในปีที่แล้ว (2563) เฟซบุ๊กเป็นแพล็ตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด เกือบ 11 ล้านราย ในกัมพูชา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
FTA เกาหลีใต้-กัมพูชา โอกาสใหม่ทัพลงทุนไทย
อียูตัดสิทธิ-โควิดทุบ ฐานผลิตกัมพูชาสลบ บิ๊กการ์เมนต์ไทยกัดฟันสู้