ทรัมป์เผยคลิปอำลาตำแหน่ง “ผมทำให้เศรษฐกิจอเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง”

20 ม.ค. 2564 | 05:12 น.

พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของนายโจ ไบเดน จะไม่มีแม้เงาของประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้ฉีกทุกกฏของธรรมเนียมปฏิบัติในการส่งมอบอำนาจ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะ หมดวาระการดำรงตำแหน่ง ลงในวันนี้ (20 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ) ได้กล่าว ถ้อยแถลงอำลาตำแหน่ง โดยการอัดคลิปล่วงหน้าเอาไว้ ทรัมป์ระบุว่า ด้วยการบริหารงานของเขาในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาได้กลับมายิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอีกครั้ง พร้อมย้ำว่า ได้ทำแล้วในสิ่งที่ตั้งใจจะมาทำ และยังทำอีกมากมายนอกเหนือจากนั้น แม้ว่าจะต้องต่อสู้ด้วยความยากลำบาก

ถึงเวลากล่าวคำอำลา

“เพราะนั่นคือสิ่งที่ทุกคนที่ได้ลงคะแนนเลือกตั้งให้ผม ต้องการให้ผมทำ” วิดีโอของทรัมป์ที่นำขึ้นเผยแพร่ทางยูทูบระบุ (บัญชีทวิตเตอร์ของทรัมป์ถูกปิดไปก่อนหน้านี้)

 

เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ปธน.ทรัมป์ยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ช่วงสองสัปดาห์สุดท้ายในการดำรงตำแหน่งของเขา บรรยากาศการอำลาตำแหน่งจึงยังคงรายล้อมไปด้วยประเด็นร้อนเกี่ยวกับการจลาจลที่เกิดจากฝีมือของกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ที่เข้าบุกยึดอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขัดขวางผลการเลือกตั้งที่นายโจ ไบเดนเป็นผู้ชนะ รวมถึงข่าวการเริ่มกระบวนการทางรัฐสภาเพื่อถอดถอนเขาออกจากตำแหน่งด้วยข้อกล่าวหายุยงปลุกปั่นให้เกิดการกบฎ ซึ่งหากวุฒิสภาไม่คัดค้านญัตติถอดถอนที่ถูกสภาผู้แทนราษฎรยื่นเสนอขึ้นมา ทรัมป์ก็จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองหลายประการรวมถึงการหมดโอกาสลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไปในอีก 4 ปีข้างหน้า

 

แต่กระนั้นก็ตาม ในถ้อยแถลงอำลาตำแหน่งของเขา ทรัมป์ยังคงยืนกรานในความบริสุทธิ์ของตัวเอง โดยในช่วงหนึ่งเขากล่าวว่า “ความรุนแรงทางการเมืองถือเป็นการโจมตีทุกอย่างที่เรารัก ใส่ใจ และให้คุณค่า ในฐานะคนอเมริกัน เราจะไม่ยินยอมให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น” และว่า รัฐบาลของเขาสร้างให้เศรษฐกิจสหรัฐกลับมายิ่งใหญ่ที่สุดในโลกได้อีกครั้ง 

 

ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า ประเด็นในการทำงานของรัฐบาลภายใต้การนำของเขาไม่ใช่เป็นเรื่องขวาจัดหรือซ้ายจัด และไม่ใช่เป็นเรื่องเกี่ยวกับพรรครีพับลิกันหรือพรรคเดโมแครต แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับ “สิ่งที่ดีสำหรับประเทศชาติในภาพรวม”

 

ในถ้อยแถลงอำลาตำแหน่งซึ่งเป็นคลิปวิดีโอความยาว 20 นาที ทรัมป์ไม่ได้กล่าวถึงผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐต่อจากเขา และไม่ได้เอ่ยนามของนายโจ ไบเดน แม้แต่ครั้งเดียว

 

ทั้งทรัมป์ และนางเมลาเนีย ภริยา จะย้ายออกจากทำเนียบขาวในเช้าวันที่ 20 ม.ค. (ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ)เพื่ออำลาตำแหน่งประธานาธิบดีและสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ทรัมป์ยืนยันจะไม่รอต้อนรับครอบครัวไบเดนเข้าสู่ทำเนียบขาว ขณะที่พื้นที่จัดพิธีสาบานตนถูกประดับไปด้วยธงชาติอเมริกันกว่า 200,000 ชิ้นแทนจำนวนผู้คนที่ไม่สามารถเข้ามาร่วมแสดงความยินดีและเป็นสักขีพยานในงานสำคัญครั้งนี้

การจัดงานในธีม America United

​สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นอ้างอิงแหล่งข่าวใกล้ชิดภายในทำเนียบขาว ระบุว่า ครอบครัวทรัมป์จะไม่ปฏิบัติตามธรรมเนียมสำคัญของผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการ “ฉีกธรรมเนียมปฏิบัติ” เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 150 ปี ซึ่งในที่นี้รวมถึงธรรมเนียมการต้อนรับผู้นำคนใหม่พร้อมสตรีหมายเลขหนึ่งเข้าสู่ทำเนียบขาวด้วยตัวเองอย่างเป็นทางการ รวมถึงการนั่งรถร่วมกันไปยังอาคารรัฐสภาเพื่อประกอบพิธีสาบานตน ซึ่งจะไม่เกิดขึ้นในครั้งนี้

 

ข่าวระบุว่า ครอบครัวไบเดนจะได้รับการต้อนรับสู่ทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการโดยนายทิมอตี ฮาร์เล็ธ หัวหน้าเจ้าพนักงานทำเนียบขาว ซึ่งเคยทำงานในโรงแรมทรัมป์อินเตอร์เนชันแนลในกรุงวอชิงตัน ก่อนถูกดึงตัวมาช่วยงานทำเนียบขาวในปี 2560 เป็นที่คาดหมายว่า นายฮาร์เล็ธไม่น่าจะอยู่ปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบขาวต่อไปในสมัยการดำรงตำแหน่งของนายไบเดน

 

การตัดสินใจของทรัมป์ที่จะเพิกเฉยและไม่ยอมรับชัยชนะของนายไบเดน ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่ให้เกียรติ ว่าที่ผู้นำและสตรีหมายเลขหนึ่งคนใหม่ ทั้งยังไม่ให้เกียรติขนบธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน นอกจากทรัมป์จะไม่ต้อนรับครอบครัวไบเดนเข้าสู่ทำเนียบขาวแล้ว เขายังจะไม่เข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันพุธนี้ (20 ม.ค.) อีกด้วย โดยหลังจากการอำลาตำแหน่ง  ทรัมป์จะย้ายไปอยู่ที่รีสอร์ทของครอบครัวในเมืองปาล์มบีช มลรัฐฟลอริดาแทน แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดว่าทรัมป์จะจัดงานกล่าวสุนทรพจน์เพื่ออำลาตำแหน่งอย่างเป็นทางการที่รีสอร์ทด้วยหรือไม่

 

สำหรับการรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบอาคารรัฐสภาซึ่งใช้เป็นที่จัดพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของนายไบเดนนั้น เป็นไปอย่างรัดกุมและแน่นหนา ในช่วงการประกอบพิธีสาบานตนที่จะเกิดขึ้นเวลาเที่ยงของวันที่ 20 ม.ค.ตามเวลาท้องถิ่น จะมีเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความปลอดภัยรวมกันมากถึง 25,000 นาย ซึ่งบนพื้นที่ของลาน “เนชั่นแนลมอลล์” ซึ่งเป็นจุดที่ประชาชนเคยมารวมตัวมากที่สุดกว่า 1.8 ล้านคน ในประวัติศาสตร์พิธีสาบานตนในสมัยของบารัก โอบามา ขณะนี้ถูกประดับไปด้วยธงชาติอเมริกันจำนวนมากกว่า 200,000 ชิ้น เป็นสัญลักษณ์ของการรวมใจของชาวอเมริกันทั้งประเทศที่รัฐบาลประกาศเชิญชวนให้รับชมการถ่ายทอดสดอยู่ที่บ้านเท่านั้น

 

ข่าวระบุว่า พิธีสาบานตนในปีนี้จัดขึ้นในธีมของ America United หรืออเมริการวมใจเป็นหนึ่งเดียว โดยไฮไลท์ของงานเป็นการขับร้องเพลงชาติสหรัฐฯ โดย เลดี้ กาก้า และการแสดงโชว์ของ เจนิเฟอร์ โลเปซ รวมถึงศิลปินระดับโลกอีกหลายคน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทำความรู้จัก "โจ ไบเดน" ประธานาธิบดีสหรัฐ คนที่ 46

เปิดนโยบายช่วงหาเสียงของ "โจ ไบเดน"(Joe Biden)

คองเกรสรับรองชัยชนะ "ไบเดน"อย่างเป็นทางการ

ประวัติ "โดนัลด์ ทรัมป์" ในมุมที่น่ารู้จัก

สหรัฐเตรียมพร้อมพิธีสาบานตน "โจ ไบเดน" ท่ามกลางมาตรการความปลอดภัยเข้มข้นระดับสูงสุด